เช็กสิทธิบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เริ่มดีเดย์ใช้ครั้งแรกในวันที่ 1 เม.ย. 2566 โดยผู้ที่ยืนยันตัวตนบัตรคนจนสำเร็จภายในช่วงวันที่ 1 มี.ค. - 26 มี.ค. 2566 จะสามารถนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดไปใช้แทนบัตรคนจนได้เลย ส่วนจะมีเงินเข้าวันไหน ได้รับสวัสดิการค่าอะไรบ้าง และสามารถกดเงินสดได้เหมือนบัตรคนจนใบเดิมหรือไม่ เช็กได้ตามไทม์ไลน์บัตรคนจนดังนี้
ไทม์ไลน์บัตรคนจนเดือนเมษายน
วันที่ 1 เมษายน 2566
1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 300 บาท/เดือน สามารถใช้ซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาท/คน/เดือน โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. ของทุกวัน และไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และยืนยันตัวตนผ่านแล้วภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566
สำหรับกรณีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะต้องรอรับสิทธิในเดือนถัดไป หลังยืนยันตัวตนสำเร็จ ซึ่งมีดังนี้
- ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 มีนาคม - 26 เมษายน 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือนเมษายนทบมาอีก 300 บาท
- ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 เมษายน - 26 พฤษภาคม 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือนเมษายน-พฤษภาคม ทบมาอีก 600 บาท
- ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 พฤษภาคม - 26 มิถุนายน 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือนเมษายน-มิถุนายน ทบมาอีก 3 เดือน จำนวน 900 บาท
- ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่ 26 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 แต่จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
2. วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) สามารถใช้บริการรถโดยสารสาธารณะดังต่อไปนี้ ในวงเงินรวม 750 บาท/เดือน
- รถเมล์ ขสมก.
- รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
- รถไฟฟ้า BTS, MRT และ Airport Rail Link
- รถไฟ
3. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาท/3 เดือน โดยใช้เป็นส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด ซึ่งปกติจะได้รับเงินช่วยเหลือ 80 บาท/3 เดือน แต่เฉพาะในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2566 ปรับเพิ่มวงเงินให้เป็น 100 บาท/3 เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)\
เงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา-ค่าไฟฟ้า เข้าวันไหน
เดิมทีผู้ถือบัตรคนจนใบเดิมจะได้สิทธิค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปา จะต้องจ่ายบิลค่าไฟ-ค่าน้ำไปก่อน แล้วค่อยมารอรับเงินโอนคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกวันที่ 18 ของเดือน ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้ แต่สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ผู้ที่ได้สิทธิค่าไฟ-ค่าน้ำฟรี จะไม่ต้องสำรองจ่ายบิลค่าไฟ-ค่าน้ำล่วงหน้า เพราะหากได้ลงทะเบียนรับสิทธิกับการไฟฟ้าฯ หรือการประปาฯ และมียอดใช้ไฟฟ้า-น้ำประปาตามเกณฑ์ที่กำหนด ทางกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้ชำระค่าบริการให้กับหน่วยงานเอง และบิลค่าไฟ-ค่าน้ำที่ส่งมาที่บ้านจะแสดงยอดเงินเป็น 0 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ
สำหรับสวัสดิการค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี ตามโครงสร้างค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้มีบัตรฯ
- ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
ช่องลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยค่าค่าไฟฟ้า
1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกลงทะเบียนที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1130
2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกลงทะเบียนที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1129
3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกลงทะเบียนที่นี่) เบอร์ติดต่อ 086-8481284
***ถ้าลงทะเบียนกับการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรกคือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566
สำหรับสวัสดิการค่าน้ำประปา
- กรณีใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าน้ำประปาตามจำนวนที่ใช้จริง
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท และต้องชำระค่าน้ำประปาเต็มทั้งจำนวนด้วยตนเอง
ช่องลงทะเบียนขอรับสิทธิช่วยค่าน้ำประปา
1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกลงทะเบียนที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1125
2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกลงทะเบียนที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1662
***ถ้าลงทะเบียนกับการประปานครหลวงหรือการประปาส่วนภูมิภาคสำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติและได้ยืนยันตัวตนสำเร็จ สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด คือ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิ ต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน