จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวมือแฮกเกอร์ใช้ชื่อว่า "9near" แฮกข้อมูลของคนไทยกว่า 55 ล้านคน และอ้างว่ามาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย ล่าสุด มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป (Hacker)
โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ประกอบไปด้วย เลขบัตรประจำตัวประชาชน , ชื่อ-นามสกุล , วันเดือนปีเกิด , ที่อยู่ , และหมายเลขโทรศัพท์ สอดรับกับการที่สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) พบเนื้อหามีการโพสต์จำหน่ายข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบไปด้วย เลขบัตรประจำตัวประชาชน , ชื่อ-นามสกุล , วัน เดือน ปี เกิด , ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายเขมรัตน์ ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.978/2566 ลงวันที่ 2 เมษายน 2566 ในความผิดฐาน "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน , เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน" อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าปัจุบันรับราชการเป็นทหารบกชั้นประทวน อยู่ใน จ.นนทบุรี และมีความใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญซึ่งเป็นนักการเมืองรายหนึ่ง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางต้นสังกัดของทหารนายดังกล่าวทราบเรื่อง ผู้บังคับบัญชาได้นำตัวมามอบกับพนักงานสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 66 เบื้องต้นมีรายงานว่าสิบเอกคนดังกล่าว กระทำไปด้วยความคึกคะนอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้คุมตัวภรรยาของสิบเอกรายนี้ ซึ่งเป็นพยาบาล รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี มาสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูลว่าเป็นการจงใจ หรือเป็นความคึกคะนองตามที่อ้างหรือไม่ นอกจากนี้หากพบว่าแฟนสาวมีความเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จะแถลงข่าวผลการจับกุมคดีนี้ด้วยตนเอง ในเวลา 15.00 น.