กรณีหญิงรายหนึ่ง ชื่อ น.ส.ชยานัฐ บุญเพิ่มผล อายุ 48 ปี อาศัยอยู่หมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เดินทางมาเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับ เพจสายไหมต้องรอด หลังจากทราบว่าบ้านของตนเองถูกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโครงการบ้านจัดสรร ติดมอเตอร์ไฟฟ้าสลับบ้าน ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาตนต้องจ่ายค่าไฟเดือนละกว่า 8 - 9 พันบาท ทั้งๆที่ตนเองไม่ค่อยได้อยู่บ้าน
ก่อนหน้านี้ตนพยายามบอกทางการไฟฟ้า และ ทางโครงการหมู่บ้านจัดสรร ขอให้ช่วยมาตรวจสอบค่าไฟที่บ้านของตนว่าทำไมถึงแพงมหาโหดขนาดนี้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบต่างก็ยืนยันกับตนว่าทุกอย่างเป็นปกติ การไฟฟ้ากำชับให้ตนต้องจ่ายค่าไฟตามบิลหากไม่จ่ายจะถูกตัดมิเตอร์ ตนจึงต้องก้มหน้าก้มตาจ่ายค่าไฟแพงมาเรื่อยๆ ระยะแรกๆค่าไฟอยู่ที่เดือนละ 4 - 5 พันบาท พอหลังๆค่าไฟแพงขึ้นมากจนถึงเดือนละ 8 - 9 พันบาท
ตนกัดฟันจ่ายมานานกว่า 28 เดือน หรือกว่า 2ปี จนกระทั่งทนไม่ไหวตัดสินใจไม่อยู่บ้านหลังนี้ กลับไปอยู่บ้านหลังเก่า และปิดสวิตซ์ไฟในบ้านทั้งหมด แต่พอถึงสิ้นเดือนบิลค่าไฟมากลับแพงกว่าเดิมเข้าไปอีก คือ เกือบหมื่นบาท ตนเครียดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับหากไม่จ่ายบ้านก็จะถูกตัดมิเตอร์ จึงตัดสินในชวนสามีขับรถมาดูมิเตอร์ไฟกลางดึกจึงพบว่าในขณะที่ตนสลับสวิตช์ไฟในบ้านลงทั้งหมด มิเตอร์ไฟกลับยังคงหมุนอยู่
ตนจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเอาไว้ และวันรุ่งขึ้นได้นำไปให้โครงการบ้านจัดสรรดู พร้อมกับนำไปให้ จนท.ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาลำลูกกา ตรวจสอบ จากนั้น จนท.ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่บ้านตนอีกครั้งจึงพบว่า มิเตอร์ไฟบ้านตนสลับกับเพื่อนบ้านหลังข้างๆ พอตรวจสอบบิลค่าไฟเพื่อนบ้านพบว่ามีบิลแจ้งหนี้เพียงเดือนละ 4 - 6 ร้อยบาท ซึ่งเป็นบิลที่เกิดจากการใช้ไฟของบ้านตนเอง
และที่ช้ำไปกว่านั้นคือ จนท.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาลำลูกกา และโครงการหมู่บ้านจัดสรร แจ้งว่าได้สลับมิเตอร์คืนให้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีหนี้ค้างชำระ แต่ในส่วนเงินที่ตนเองจ่ายผิดให้เพื่อนบ้านไปหลายแสนบาท ขอให้ไปเจรจากับทางเพื่อนบ้านเองเองว่าจะคืนกันยังไง ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงติดต่อขอความช่วยเหลือมายัง เพจสายไหมต้องรอด เพื่อเป็นสื่อกลางเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประชาชนต่อไป
ด้านนายอาชาน โอภาสธนากูร ทีมงานสายไหมต้องรอด เรียกร้องให้ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ โครงการหมู่บ้านจัดสรร ร่วมกันออกมาเยียวยาผู้เสียหาย ไม่ควรปล่อยให้ผู้เสียหายไปเรียกร้องเอง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของ 2 หน่วยงาน จึงไม่ควรให้ประชาชนที่มาซื้อบ้านอยู่ด้วยความสุจริตต้องมาแก้ไขปัญหาหรือไปเรียกร้องเงินคืนจากเพื่อนบ้านเองแบบนี้
คืบหน้าล่าสุด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคลำลูกกา ออกมาชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าสายที่เดินเข้ามิเตอร์ไฟฟ้าผิดหรือสลับหลังกัน เมื่อพบเหตุการณ์ดังกล่าวการไฟฟ้าไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งเคลียร์ตามระเบียบของการไฟฟ้าในเรื่องทั้ง 2 บ้าน ได้ปรับปรุงค่าไฟฟ้าและเรียกเก็บค่าไฟฟ้าโดยที่เจ้าของบ้านทั้ง 2 หลังไม่ต้องไปเรียกเก็บกันเอง และโอนเงินคืนให้แล้ว ในวันที่ 25 เม.ย.จำนวนตามยอด 120,830 บาท เงินที่จ่ายเกินมา ทางการไฟฟ้าได้จ่ายคืนเข้าบัญชีเจ้าของบ้านแล้ว