ขับรถยนต์เหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น มีความผิด เสี่ยงติดคุก!

30 เมษายน 2566

ขับรถยนต์เหยียบน้ำกระเด็นใส่คนอื่นมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท จำคุกสูงสุด 3 เดือน แถมต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

ขับรถยนต์เหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น มีความผิด เสี่ยงติดคุก

ขับรถยนต์เหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น มีความผิด เสี่ยงติดคุก!

หลายคนคงยังไม่ทราบหรือไม่ว่าการขับรถเหยียบแอ่งน้ำจนเป็นเหตุให้น้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่น เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 โทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขับรถยนต์เหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น มีความผิด เสี่ยงติดคุก!

ยิ่งช่วงต้นหน้าฝนแบบนี้ มีฝน น้ำท่วมขังตามพื้นผิวจราจร คนที่เดินบนทางเท้านอกจากจะต้องระวังฝนตก ยังต้องระวังน้ำที่อาจจะกระเด็นจากการขับขี่ของยวดยานพาหนะ หากใครมีประสบการณ์คงจะเข้าใจดีว่าการที่เรายืนหลบฝนตามป้ายรถเมล์ หรือเดินกางร่มอยู่ริมทางดี ๆ แต่กลับมีรถมาจากไหนไม่รู้ ขับเหยียบแอ่งน้ำกระเด็นมาโดนเรา ทำให้เราเปียกปอน ข้าวของเสียหาย แต่เหตุการณ์เหล่านี้เราสามารถเอาผิดกับคนขับรถได้ เพราะว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมาย โทษปรับหนักและเสี่ยงติดคุก และยังอาจผิดกฎหมายอาญา รวมทั้งอาจถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้

ดังนั้น  เมื่อพบว่าเส้นทางข้างหน้ามีแอ่งน้ำ โดยเฉพาะในเขตชุมชมที่มีผู้คนสัญจรไปมา ควรลดความเร็วลงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำสกปรกกระเซ็นใส่ผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำความผิดที่มีอัตราโทษสูงดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้

ขับรถยนต์เหยียบแอ่งน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น มีความผิด เสี่ยงติดคุก!

แต่ถ้าคุณเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เป็นผู้ถูกกระทำ อันดับแรก คือ จด และ จำทะเบียนคันก่อเหตุไว้ หรือถ่ายภาพได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ แล้วนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันที ส่วนผู้ขับขี่เองก็ควรต้องใช้ความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำขณะฝนตกหรือเจอแอ่งน้ำ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เพื่อนร่วมทางเดือดร้อน ยังช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย