ครอบครัวร่ำไห้ลอยอังคาร จีจี้ สุพิชชา พ่อคาใจคดีนิ่ง ตำรวจไม่ให้ดูสำนวน

วันนี้(5 พ.ค. 66) ครอบครัวนําอัฐิ ของ น.ส.สุพิชชา หรือ "น้องจีจี้" เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง ที่เสียชีวิตจากเหตุถูกยิงภายในห้องพักคอนโดหรูแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร มาลอยอังคารที่แม่นํ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ติดกับวัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร) 

โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยโศกเศร้า ซึ่งขณะที่แม่น้องจีจี้ นําอัฐิลงไปลอยนั้น ได้หลั่งนํ้าตาออกมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่ภายหลังเสร็จพิธี ทางคุณพ่อได้เปิดใจและให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของคดีความและเหตุผลที่นําอัฐิ จีจี้ สุพิชชา มาลอยอังคารที่บริเวณวัดหลวงพ่อโสธร

คุณพ่อ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องนําอัฐิน้องมาลอยที่วัดโสธร เนื่องจากเคยขอลูกกับหลวงพ่อโสธร จนกระทั่งมีน้องจีจี้ออกมา ซึ่งจริงๆแล้วตนก็ลืมไปว่าน้องเริ่มมีอายุที่เพิ่มขึ้นและยังไม่ได้ทําพิธีคืนลูกให้ท่าน (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ซึ่งนี้เองจึงเป็นสาเหตุที่ต้องนําอัฐิน้องมาลอยอังคารที่วัดหลวงพ่อโสธร

นอกจากนี้ทางคุณพ่อได้กล่าวถึงเรื่องคดีความต่างๆด้วยว่า น้องจีจี้ถูกละเมิดความเป็นมนุษย์ ซึ่งถูกกระทําจนไม่สามารถเรียกชีวิตกลับคืนมาได้อีก และเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพบเจ้าหน้าตํารวจ สน.มักกะสัน เพื่อขอดูความคืบหน้าของสํานวนคดี โดยมีการโทรนัดหมายในเวลาบ่ายโมง - บ่ายสอง ซึ่งทางตํารวจเจ้าของคดี บอกว่าเข้ามาได้เพราะอยู่ตลอด แต่เมื่อไปถึงกลับไม่อยู่ พอถามถึงเรื่องสํานวน ก็อ้างว่านําติดตัวไปด้วย อีกทั้งยังถูกจับไปสอบเพิ่มอีกว่าทางครอบครัวฝ่ายชายได้มาร่วมงานศพหรือพูดเรื่องเยียวยาบ้างหรือไม่ ซึ่งก็ตอบไปว่ามาจริงแต่ตนไม่อยู่ 
 

ทั้งนี้คุณพ่อ ฝากถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในคดีด้วยว่า อยากทราบว่าสํานวนคดีนั้นตรงกันกับที่ตนเห็นในจุดเกิดเหตุหรือไม่ เนื่องจากผ่านมานานถึง 19 วันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งไม่ทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องยศใหญ่หรือไม่คดีถึงล่าช้า แต่ตนและลูกเป็นประชาชน ซึ่งทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน  โดยวันที่เกิดเหตุนั้นตนเข้าไปพบศพและเห็นสิ่งต่างๆมากพอสมควร

ส่วนเรื่องเยียวยาเขาคุยกับทางแม่น้องเสนอให้ 1 ล้านบาท แต่ตนมองว่ามันไม่ใช่ "คุณฆ่าลูกผมแค่นั้นหรอ" เพราะคุณค่าของคนไม่ได้วัดด้วยเงินก็จริงแต่น้องกําลังมีอนาคตในหน้าที่การงานที่ดีแต่กลับต้องมาจบชีวิตโดยที่เค้าไม่รู้ตัว 

อย่างไรก็ตามคุณพ่อน้องจีจี้ยืนยันว่า จะเดินหน้าทวงคืนความยุติธรรมให้ดีที่สุดเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทําให้กับลูกได้ พร้อมเปิเผยว่าก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าลูกเคยโดนทําร้ายร่างกายเพราะลูกไม่เคยบอก หากทราบคงไม่ปล่อยให้คบกันและคงจะไม่เกิดเรื่องหรือการสูญเสียแบบทุกวันนี้อย่างแน่นอน