เกาะติดความคืบหน้า เลือกตั้ง2566 ล่าสุดวันที่ 15พ.ค.66 พรรคก้าวไกลแถลงประกาศชัยชนะเลือกตั้ง โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 ของทุกคน เผยยกหูหา อุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทย และอีก 4 พรรค ชวนร่วมงาน ทุกพรรคตอบรับ-ยินดี ตอนนี้กำลังติดต่อไปยังอีกหนึ่งพรรค ประกาศรวม 6 พรรค "309เสียง" ตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่หวั่น 250 ส.ว.
โดย ทิม พิธา กล่าวว่า ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันแล้ว จะทำงานตามโรดแมพ ที่หาเสียงไว้กับประชาชน มั่นใจตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้แน่นอน ถ้าดูจากคะแนนเสียง
ในตอนนี้ โดยพรรคก้าวไกลได้มีการติดต่อพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือ
1.พรรคเพื่อไทย
2. พรรคไทยสร้างไทย
3. พรรคเสรีรวมไทย
4.พรรคประชาชาติ
และ 5. พรรคเป็นธรรม (ที่กำลังจะติดต่อล่าสุด)
ซึ่ง หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาแกนนำทั้งหมด 5 พรรคการเมือง ทั้งที่เป็นฝ่ายติดต่อไปและแกนนำของพรรคเหล่านั้นได้ติดต่อมาที่พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเสรีรวมไทย ที่จะรวมกันเป็น 308 เสียง และกำลังติดต่อไปยังพรรคเป็นธรรม ซึ่งจะทำให้รวมเป็น 309 เสียง คิดว่าเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทุกฝ่ายต้องน้อมรับฉันทามติจากพี่น้องประชาชน
พร้อมกันนี้ ได้โทรศัพท์หา คุณแพทองธาร ชินวัตร แสดงความยินดีกับความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางหาเสียง ที่ทำได้อย่างดีเยี่ยมไร้ที่ติ และได้เชิญชวนพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม ในการจัดตั้งรัฐบาลตามที่เคยสัญญากับพี่น้องประชาชน ส่วนข้อกังวลที่ว่าพรรคเพื่อไทย จะไปจับขั้วกับพรรคอื่น พิธา ยืนยันว่าไม่กังวล
พร้อมฝากเตือนไปยังสมาชิกวุฒิสภา 250 ส.ว. อย่าพยายามฝืนฉันทามติของประชาชน นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวถามถึงเก้าอี้ รมว.กลาโหม?? นายพิธา ระบุว่า รอการเจรจาของพรรคร่วม ว่าจะได้ข้อยุติยังไง โดยวันนี้ บก.บห.พรรค จะประชุมและต่อสายคุยพร้อมทุกพรรค
ด้าน เรื่องจำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลใกล้เคียงกัน ตำแหน่งรมว.กลาโหมจะเป็นของใคร นั้น ทิม พิธา กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่ได้อยู่ที่กระทรวง
ส่วนคำถามที่ว่า เพราะเหตุใดถึงไม่นำพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อความเด็ดขาดในการปิดสวิตช์ 250ส.ว. พิธากล่าวว่า ไม่จำเป็น การที่ขั้วฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล 300กว่าเสียงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีใครกล้าฝืนฉันทามติประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้โทรมาหาตนเอง
ด้านประเด็นการ แก้ไข ม.112 ยืนยันว่าเป็นการแก้ไข และต้องแก้ไขในรัฐสภา แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือคนที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้ ยอมรับเป็นห่วงความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่กับสถาบันพระมหากษัตริย์
การทำงานต่อจากนี้ มีประมาณ 2-3 ส่วน หนึ่งคือการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลจะนำโรดแมปที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง เพื่อนำไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ และพร้อมพาประเทศไทยไปสู่อนาคต ทำประชามติให้มี สสร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ พัฒนาเศรษฐกิจสร้างความเจริญเติบโตและลดความเหลื่อมล้ำไปในคราวเดียวกัน (Inclusive Growth)
สอง ตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีคณะทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจ เปลี่ยนผ่านรัฐบาล อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
สาม จะมีการเดินสายพบปะประชาชน ภาคประชาสังคม ข้าราชการ และภาคธุรกิจ เพื่อเดินหน้าทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ให้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นฉันทามติที่มาจากพี่น้องประชาชน สามารถทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้ เพื่อพาประเทศไทยไปสู่อนาคต ไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพและมีอุดมการณ์ เป็นความเปลี่ยนแปลงที่พวกเราถวิลหา