จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ลุกซ์ น้องชายใบเตย แจ้งข่าวเศร้า ความหวังเดียวของบ้าน ที่ "ดีเจแมน-ใบเตย" ฝากฝังดูแลครอบครัว เสียชีวิตเเล้ว โดย ลุกซ์ ได้โพสต์ว่า "วันนี้เวลา 00.01 น. พี่ภูมิได้จากพวกเราไปอย่างสงบเเล้วนะคะ ลุกซ์ขอขอบคุณหมอเเละพยาบาลรพ.พระนั่งเกล้าทุกคนมากๆ ที่ดูเเลพี่ภูมิเเละคนไข้ทุกคนเป็นอย่างดี เเละขอบคุณทุกกำลังใจมากๆนะคะ"
โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2566 แฟนหนุ่มของน้องชายใบเตย คือนายภูชิต บุญโท หรือภู ถูกรถเก๋งมาสด้าสีขาว หักเลี้ยวกะทันหันพุ่งมาชนรถจยย.ของนายภูชิต จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส รถล้มหัวฟาดพื้น มีเลือดออกในสมอง ซึ่งผู้ก่อเหตุได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุทันที แต่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถพร้อมป้ายทะเบียนได้ชัด
ภูมิ แฟนน้องชายใบเตยต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน และยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาหลังการผ่าตัด จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาของวันที่ 18 พ ค. นายภูชิตได้เสียชีวิตลงหลังจากเข้ารับการรักษามาเป็นเวลา 15 วัน
ด้าน พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้ทางขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน จนพบรถเก๋งมาสด้าสีขาวคู่กรณีที่เฉี่ยวชนแล้วหลบหนีไป ต่อมาจึงสืบทราบทะเบียนของรถคันที่เกิดเหตุแล้ว พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ผู้ครอบครองรถมาพบในฐานะพยานแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีการติดต่อกลับมา หรือแสดงตัวนัดหมายที่จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
และเมื่อนายภูชิต เสียชีวิตลง ทำให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกใหม่เป็นครั้งที่ 2 แล้วในวันนี้ โดยเปลี่ยนจากหมายเรียกในฐานะพยานผู้ครอบครองรถเก๋งคันดังกล่าว มาเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้แทน จากข้อหาเดิมคือขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย มาเป็นข้อหาตามมาตรา 291 กระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท รวมทั้งข้อหาชนแล้วหนี ซึ่งมีโทษจำคุก 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจมีพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุจนสืบสวนทราบว่า คนขับรถคันดังกล่าวเป็นคนคนเดียวกันกับรายชื่อผู้ครอบครองรถ ซึ่งเป็นชายชาวอุทัยธานี โดยหลังจากในวันนี้ออกหมายเรียกตัวเป็นครั้งที่ 2 แล้ว หากทางเจ้าของรถคันดังกล่าวยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีก จะขออำนาจศาลพิจารณาออกหมายจับต่อไป