กางบัญชีทรัพย์สิน ทิม พิธา ว่าที่นายกคนที่ 30 ร่ำรวยแค่ไหน มีหนี้เท่าไหร่

เรียกว่านาทีนี้ไม่มีอะไรต้านได้กับกระแสของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกคนที่ 30 ของไทย จากพรรคก้าวไกล ที่กำลังได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ทั้งลีลาการอภิปรายในรัฐสภา หรือประเด็นต่างๆ ที่นำเสนอต่อสื่อสังคมนั้นก็ได้รับความสนใจจากคอการเมืองเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งบทบาทที่นักการเมืองจะต้องทำคือ การแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ก่อนเข้ารับตำแหน่งนั่นเอง อยากรู้มั้ย ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีทรัพย์สินมากขนาดไหน

โดยข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีรายได้รวม 2,617,937.18 บาท มีรายจ่ายรวม 1.28 ล้านบาท มีทรัพย์สินรวม 137,785,190.85 บาท และมีหนี้สินรวม 22,954,064 บาท

 

 

ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แจ้งว่ามีรายได้ประจำ ได้แก่

เงินเดือน 1,362,720 บาท
เงินเดือนที่ปรึกษา 1.2 ล้านบาท
ดอกเบี้ยเงินฝาก 55,217.18 บาท
รวมรายจ่าย 6 แสนบาท

รายการทรัพย์สิน ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีรายละเอียดดังนี้

เงินสด 1,800,000 บาท
เงินฝาก 2,760,859.21 บาท ประกอบด้วยบัญชีธนาคาร 32 บัญชี
เงินลงทุน 2,029,555.44 บาท ประกอบด้วยกองทุนเปิด 41 บัญชี
หุ้นบริษัท หุ้นกู้บริษัท เสนาดิเวล็อปเม้นท์ มูลค่า 2 แสนบาท
หุ้นกู้เซเว่นอีเลฟเว่น มูลค่า 2 แสนบาท
หุ้นกู้เจมาร์ท มูลค่า 2 แสนบาท

ที่ดิน 18 ล้านบาท ประกอบด้วยที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ และที่ดินเนื้อที่ 14 ไร่ 62 ตารางวาเศษ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 18 ล้านบาท เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการรับมรดก ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 60.5 ล้านบาท ประกอบด้วย ห้องชุด แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มูลค่า 15 ล้านบาท ของน้องชายแต่ผู้ยื่นพักอาศัย, ห้องชุดแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มูลค่า 45.5 ล้านบาท ของผู้ยื่น และบ้านบนที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

 

 

ยานพาหนะ 2.1 ล้านบาท ประกอบด้วย
รถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์ มูลค่า 1 ล้านบาท
รถยนต์ยี่ห้อฮุนได มูลค่า 1 ล้านบาท
รถจักรยานไฟฟ้า มูลค่า 5 หมื่นบาท
รถจักรยานยนต์คลาสสิกโบราณ 2 คัน มูลค่า 2.5 หมื่นบาท

สิทธิและสัมปทาน 30,284,477,20 บาท ประกอบด้วย กรมธรรม์ประกันชีวิต 6 ฉบับ สมาชิกราชกรีฑาสโมสร มูลค่า 1.5 ล้านบาท ลิขสิทธิ์หนังสือ ไมล์สะสมรอยัลออร์คิดพลัส (ROP) ทรัพย์สินอื่น 8,930,299 บาท ที่มีมูลค่ามากที่สุดได้แก่ นาฬิกา 5 เรือน มูลค่า 4.3 ล้านบาท เสื้อสูทและเสื้อผ้าลำลอง 15 ชุด มูลค่า 1.4 ล้านบาท เฟอร์นิเจอร์ไม้สักเก่า 8 ชิ้น มูลค่า 1 ล้านบาท รวมทรัพย์สิน 126,405,190.85 บาท

 

 

ส่วนหนี้สินได้แก่ เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 259,575 บาท ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ 3 สัญญา ธนาคารธนชาต 1 สัญญา หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 22,694,489 บาท ประกอบด้วย ธนาคารยูโอบี ยอดหนี้คงเหลือ 21,811,981 บาท ลิสซิ่งกสิกรไทย ยอดหนี้คงเหลือ 882,508 บาท รวมหนี้สิน 22,954,064 บาท ทำให้นายพิธามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 114,831,126.85 บาท

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Creden Data พบว่า ทิม พิธา เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท 1 แห่ง ปัจจุบันถือหุ้น 2 รายการ โดยมีมูลค่าหุ้นทั้งหมด 406,420 บาท

 โดยมีรายละเอียดดังนี้

บริษัท เกร็ทโอเชียนฟู้ด จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2548 โดยมีรายชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจอาหารแช่แข็งประเภทเนื้อสัตว์ ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานภาพกิจการเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2554 โดยที่ผ่านมาเคยแจ้งผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

ปี 2550 รายได้ 11,065,797 บาท ขาดทุน 939,660 บาท
ปี 2551 รายได้ 8,617,810 บาท ขาดทุน 1,123,746 บาท
ปี 2552 รายได้ 14,126 บาท ขาดทุน 42,388 บาท

นอกจากนี้ ยังพบว่า ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท 2 แห่ง ได้แก่

บริษัท พรพนา พลัส จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2550 ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น (10%) มูลค่าหุ้น 333,757 บาท

บริษัท ไทยโรจน์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2507 ดำเนินธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทและห้องชุด ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยทิม พิธา ถือหุ้นจำนวน 121 หุ้น (6.05%) มูลค่าหุ้น 72,663 บาท บาท

 

 

สำหรับกรณีหุ้น ITV ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้นั้น หุ้นITV เป็นหุ้นที่อยู่ในกองมรดกที่ นายพิธา เป็นผู้จัดการอยู่ มีจำนวน 42,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.0035%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในบริษัทITV ถ้าถามว่าหุ้นITVที่กองมรดกนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ เนื่องจาก ITVไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่ก็สามารถคำนวนได้ง่ายๆจากสัดส่วนของผู้ถือหุ้นหรือมูลค่าทางบัญชีของ บริษัท และมูลค่านี้ไม่ใช่0แต่เป็นมูลค่าติดลบเนื่องจาก ITV ประสบปัญหาทางธุรกิจมากมาย

จึงทำให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นบ.ITV ปี2565 มีมูลค่าติดลบ1,626ล้านบาท ถ้าเอา 0.0035% คูณกับมูลค่าดังกล่าว ก็จะแปลว่ามรดกที่นายพิธาจัดการอยู่จะครอบครองหุ่นITVที่มีมูลค่าติดลบ -56910บาท นั่นเอง