29 พ.ค.66 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ได้เดินทางไปสน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไปที่ไหนก็มีแต่ปัญหา วอนสื่อเลิกนำเสนอข่าวได้แล้วเพราะมีแต่คำพูด อยากให้สื่อนั้นเอาเวลาไปทำข่าวที่มีประโยชน์ต่อสังคมจะดีกว่าตามไปทำข่าวนายชูวิทย์
นอกจากนี้ นายสันธนะ ยังพูดเตือนพรรคก้าวไกล ยังอ่อนหัด ทางการเมือง ยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ที่จะได้ตำแหน่งประธานสภา มีเรื่องร้องเรียน ในความเห็นของตนอยากให้มีการพิจารณา ให้ถูกประเด็น เรื่องของตัวคุณพิธา และพรรคก้าวไกล ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการนำชื่อให้กับสมาชิกวุฒิสภา จะได้ไม่เป็นชะตากรรมของ ส.ว. จากที่ตนได้คุยกับ สว. ที่เป็นเพื่อนๆกัน จากความเห็นส่วนใหญ่น่ะวันนี้ คุณพิธาต้องสงวนท่าที แต่ถ้าในเชิงลึกส่วนตัว ส.ว. ไม่น่าจะโหวตผ่านให้ คุณพิธา และพรรคก้าวไกล
เนื่องจากเราก็ต้องยอมรับว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของพรรคก้าวไกล การทำการเมืองต้องเปิดกว้าง อย่าห่วงก้าง และบุคลากรของพรรคก้าวไกล หลายคนทั้งบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขตหากมีการประกาศอย่างเป็นทางการต้องเรียนอย่างตรงๆไม่เหมาะสม การเมืองเป็นเรื่องที่พวกคุณเก่ง ตนยอมรับ แต่การเมืองมันเก่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ แต่ตอนนี้
พรรคก้าวไกลไม่มีประสบการณ์เลย พรรคก้าวไกลต้องกลับไปทบทวนตัวเอง เพราะคือความผิดพลาด ของพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลมีบุคลากรที่พร้อมหรือไม่ ไม่ต้องมองไปไกล แค่ประธานสภา
วันนี้ก็ยังมองไม่เห็นหน้าตาเลย ที่ว่าเหมาะสม สิ่งพวกนี้พูดได้ทั่วไป สำหรับพรรคที่จะเอาตำแหน่ง ไม่ได้จำกัดเรื่องอายุ ไม่ว่า จะคนหนุ่ม หรือรุ่นใหญ่ จึงบอกว่าความเหมาะสมและประสบการณ์ทางการเมือง