เทศกาลไพรด์ หรือ Pride Month ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงออกถึงความต้องการสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมของ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยในวันที่ 4 มิ.ย.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาร่วมงาน บางกอกไพรด์ 2023 (BangkokPride2023)
โดย นายพิธา กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้มาร่วมงานPrideในวันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกในการแสดงความรักทุกรูปของสังคมไทยสามารถเป็นไปได้และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงโลกว่า ความรักจะชนะหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นการที่มาฉลองกันในวันนี้ ไม่ใช่แค่พาเหรดหรือสัญลักษณ์ และเมื่อรัฐบาลจัดตั้งได้เมื่อไหร่จะสนับสนุนสมรสเท่าเทียมและอัตลักษณ์ทางเพศ รวมไปถึงสวัสดิการ ซึ่งหากทำได้จะเป็นการสนับสนุน Pride month ให้เป็น Pride Always
จริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นคนจะมองว่าประเทศไทยเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ ปลอดภัยและอิสระ ที่จะให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดและลบคำครหาบางอย่างที่กำหนดสังคมจากเพศสภาพบางคนอยากเป็นครูก็เป็นไม่ได้ บางคนอยากวางแผนครอบครัวก็ทำไม่ได้เพราะเพศสภาพ บางคนอยากจะวางแผนภาษีซื้อประกันให้คนที่รักก็ทำไม่ได้ และหวังว่าปี2028 กรุงเทพจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน world pride ซึ่งผลพวงที่ตามมาเช่นผลพวงทางเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่าจะดันเข้าสู่สภาเลยหรือไม่นายพิธา กล่าวว่าแน่นอน ร่างพรบ.สมรสเท่าเทียมก็ยังอยู่ในสภาสามารถผลักดันต่อได้เลย ซึ่งหากไปดูแล้ววิปรัฐบาลในขณะนั้นก็ให้ผ่านกฎหมาย ซึ่งตนก็เห็นด้วยเพราะไม่ใช่เรื่องปฏิบัติทางเพศ ทำให้คนสามารถเลือกระดับชีวิตได้ว่าจะเป็นแบบไหนจะเป็นระดับคนรักหรือว่าระดับสมรส เพื่อมีไว้ให้คนไม่จำกัดเพศสภาพ ตนคิดว่าเป็นการสร้างนิมิตรใหม่ให้สังคมไทย ซึ่งต้องทำให้ได้ใน100วันแรก ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็เห็นด้วยและจะผ่านสภาอย่างรวดเร็ว
นายพิธา ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าเรื่อยๆ อังคารนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการประสานงานว่าจะมีทางออกอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นเรื่องพลังงานเป็นหลักและจะได้เคาะคณะทำงานเพิ่ม และ วันที่7มิ.ย.66 จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค ซึ่งาทั้ง8พรรค การเจรจาได้เป็นไปตามที่แถลงไว้ครั้งที่แล้วตอนนี้มีความคืบหน้าพอสมควร ตอนนี้บริบทเปลี่ยนไปเรื่อยๆต้องใช้เวลาพูดคุยกัน ซึ่งคาดว่าจะจบลงด้วยดีเราจะไม่เสียสมาธิในการแก้ปัญหาประชาชน
ส่วนประเด็นการถือหุ้นสื่อ ตนพร้อมชี้แจงในเรื่องหลักฐานและกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือเชิญจาก กกต. หากมีเอกสารมาก็จะชี้แจงกลับไป ตนพยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องบริสุทธ์ และไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้ เมื่อถามว่ารวมถึงเรื่องกระแสข่าวที่มีการเทขายหุ้นแล้วหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องรอดูในเอกสาร
ด้าน กรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคก้าวไกลควรใช้หลักการรวมเสียงส.ส.แบบเดียวกันกรณีพรรคชาติพัฒนากล้าคือไม่รวมเสียงส.ส.ที่เคยโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชาเป็นนายก นายพิธากล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดของสิ่งที่นายสาธิตกล่าว จึงยังไม่ได้ตอบคำถามนี้เพราะเกรงว่าหากผิดพลาดแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ การจะเป็นผู้นำของประเทศได้ต้องดูรายละเอียดให้ครบก่อนเพื่อจะได้ไม่แสดงความเห็นผิดๆออกไป