จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ครูอุ้ม น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี ครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้แชร์เรื่องราวของ น้อยเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ผ่าน Tiktok ซึ่งขณะที่ครูอุ้มไปที่บ้านของน้องเตย ก็พบว่าน้องกำลังนั่งล้างจานอยู่ พร้อมบรรยาชีวิตของน้องเตยที่ต้องดูแล "นางเสา จินดาศรี" คุณย่าวัย 68 ปี ตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง
หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท และยังมีสิ่งของอีกมากมายที่หน่วยงานและผู้ใจบุญนำมามอบให้ พร้อมกันนี้ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ยังประกาศในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่าจะส่งเสีย น้องเตย ให้เรียนหนังสือจนจบปริญญาเอกหรือเท่าที่น้องจะเรียนไหว ทางด้าน ครูอุ้ม อัปเดตยอดบริจาค ทั้งหมด 5,900,000 บาท
ส่วนทางด้าน พ่อของน้องเตย หลังจากที่ข่าวเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง ว่าไม่เคยกลับมาเยี่ยมน้องเตยและแม่เลย ก็ขอชี้แจงว่า ตนไม่เคยทิ้งลูกไม่เคยขาดการติดต่อ และยังไม่ได้เลิกกับแม่น้องเตยยังอยู่ด้วยกัน และยังส่งข้าวของไปให้ตลอด กระทั่งเดือนเมษายน ปี 2562 ด้วยปัญหาหลายอย่างจึงนำน้องเตยไปฝากย่าเลี้ยง เมื่อช่วงวันเลือกตั้ง 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็กลับไปหาลูกและถ่ายรูปกัน และก่อนหน้านี้ยังเคยไปรับน้องเตยมาเที่ยวทะเลที่ระยอง มีคลิปน้องเตยเล่นน้ำทะเลด้วย
พ่อน้องเตย ยังเผยอีกว่า ตนไม่ได้แสดงตัวเพราะต้องการเงิน เพราะให้ย่าเป็นคนจัดการอยู่แล้ว ที่ต้องออกมาแสดงตัวเพราะต้องการขอความเป็นธรรมเท่านั้น และยังมีหลักฐานการส่งของ หลักฐานคลิปที่ถ่ายไว้ขณะไปรับน้องเตยมาเที่ยวทะเลที่ระยองเพื่อยืนยัน เพราะที่ผ่านมาตนถูกสังคมโจมตีอย่างหนักว่า ทิ้งลูก ขาดการติดต่อ แถมยังถูกกล่าวหาว่าที่มาแสดงตัวเพื่อหวังเงินบริจาค
ต่อมาล่าสุด ย่าน้องเตย กล่าวว่า ยังคงยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้เป็นความจริงทุกอย่าง แต่ในเมื่อลูกชายยืนยันว่าแม่หลงลืมไปเอง ทั้งเรื่องที่เลี้ยงหลานตั้งแต่ 8 วัน ซื้อของมาให้ลูก และรับลูกไปเที่ยวด้วย ในเมื่อลูกเขายืนยันแบบนั้นแม่ก็ไม่อยากจะมีปัญหากับลูก แม่จึงขอเป็นฝ่ายที่ยอมรับเองว่าแม่คงลืมและขอโทษลูกด้วยถ้าแม่ทำให้เข้าใจผิด ซึ่งตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว และไม่อยากให้ข่าวอะไรอีก เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในครอบครัว ที่ผ่านมาก็เครียดจนนอนไม่หลับ
ส่วนเรื่องเงินบริจาคมีเจ้าหน้าที่พาไปปรับสมุดที่ธนาคารแล้ว เจ้าหน้าที่เจ้งว่ามียอดบริจาคเข้ามากว่า 5,900,000 บาท ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือตนเองกับหลาน และเจ้าหน้าที่ยังแจ้งด้วยว่าเงินดังกล่าวได้มีการทำบันทึกว่าจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้หลาน 4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้าน 9 แสนบาท เป็นส่วนของย่าไว้ดำเนินชีวิตและซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ