อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากก่อนหน้านี้ กับกรณีพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างเพศผู้วัย 30 ปี ซึ่งเป็นช้างไทย 1 ใน 3 เชือกที่รัฐบาลไทยมอบให้ทูตสันถวไมตรีกับรัฐบาลศรีลังกาตั้งแต่ปี 2544 ได้เดินทางกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2566 เพื่อรักษาอาการป่วยและเข้ากักตัวที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น
ทั้งนี้มีประเด็นที่หลายคนเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากรักษา พลายศักดิ์สุรินทร์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการส่งกลับไปประเทศศรีลังกาอีกหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ พลายศักดิ์สุรินทร์ กลับประเทศไทย ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณผู้มีส่วนร่วม และตอบคำถามประเด็นดังกล่าว พร้อมพูดถึงช้างไทยอีก 2 เชือศรีลังกากว่าจะเอากลับมาด้วยได้ไหม โดยระบุว่า
"ปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจอย่างแข็งแรงของทุกฝ่าย ไม่มีอะไรง่ายเลย มีปัญหาให้ต้องแก้ตลอดทาง แต่ทุกอย่างลุล่วงด้วยดี
ขอบคุณท่านทูตพจน์ผู้เจรจา เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในศรีลังกา ที่ประสานงาน ท่านนายกประยุทธ์ผู้อนุมัติงบประมาณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เจ้ากระทรวง อธิบดีกรมอุทยานฯ ท่านรองอธิบดี คุณหมอและพี่ควาญจาก ออป. , กระทรวงการต่างประเทศ , องค์กร RARE แห่งศรีลังกาที่จุดประเด็นเรื่องนี้ , ท่านเจ้าอาวาสวัดที่ให้เราเอาศักดิ์สุรินทร์ออกมารักษาตัว
พลังใจจากพี่น้องคนไทยที่ส่งให้พ่อพลาย และที่สำคัญคือ ความเข้มแข็งแต่อ่อนโยน ว่าง่ายและอดทนของพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์
สำหรับความห่วงใยว่าต้องส่งพ่อพลายกลับไปอีกไหม เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้ว ขอตอบว่า การจะให้พ่อพลายแข็งแรงอย่างเต็มร้อย เราคงต้องรักษาเขาอยู่ที่แผ่นดินไทยอาจชั่วชีวิตเขาค่ะ
อีกหนึ่งเรื่องที่พูดกันเยอะคือ เอาอีก 2 เชือกกลับมาด้วยได้ไหม
เรียนว่า การเอากลับแต่ละเชือกไม่ง่าย กรรมสิทธิ์เป็นของวัดที่เขาอยู่ ถ้าเจ้าอาวาสไม่ให้ เราทำไรไม่ได้เลย ท่านทูตบอกว่า กรณีที่เราไปเอาศักดิ์สุรินทร์กลับ ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมมากในศรีลังกา ทั้งในเชิงอภิปรายในสภาเขา และการเกรงว่า ช้างที่มาจากต่างประเทศของเขาจะมีการถูกเอากลับอีก (เขามีช้างจากอินเดียและพม่าด้วย)
เป็นเรื่องใหญ่ในประเทศ แต่ในมิติที่ดีคือ เขาน่าจะตื่นตัวใส่ใจดูแลสวัสดิภาพช้างที่เขาใช้งานให้ดีขึ้น
บอกแล้วว่า กรณีศรีณรงค์ตัวเองไม่ห่วง เพราะเห็นแล้วว่าเขาเป็นอย่างไร คนเลี้ยงเขาเป็นอย่างไร แต่ยอมรับว่าห่วงประตูผา เพราะอายุเยอะกว่าใคร อายุเขาราว 48 แล้ว ที่ไปครั้งนี้ไม่สามารถไปเยี่ยมประตูผาได้ เพราะเห็นว่าทางวัดบอกเขาตกมันค่ะ
ดิฉันคิดบางอย่างเบื้องต้นไว้บ้าง ที่ไม่ต้องใช้อำนาจรัฐ เพราะไม่ทราบรัฐบาลใหม่จะมีนโยบายเรื่องเกี่ยวกับช้างที่ส่งไปแล้วเขาลำบากอย่างไร แต่จะทำในศักยภาพส่วนตัวที่พอทำได้ แน่นอนไม่ถึงขั้นเอาเขากลับ เพราะเหตุผลหลายอย่างที่เอ่ยไปแล้ว ทั้งเรื่องกรรมสิทธิ์ นโยบายรัฐ แรงกระเพื่อมในศรีลังกาเอง แต่จะไปหาทางให้เขาได้รับการดูแลสุขภาพต่อเนื่องในศรีลังกาเอง ดิฉันจะไปศรีลังกาอีกในไม่นานนี้ คราวนี้เพื่อประตูผา"