กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก กรณี นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (MR.HANS PETER RALTER MACK) อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมันที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่ 4 ก.ค.66 และมีการพบรถเบนซ์ คูเป้ อี 350 ถูกจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถชั่วคราวของคอนโดมิเนียม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเวลา 23.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 66 มีรายงานว่าพบร่างนักธุรกิจชาวเยอรมัน ซุกอยู่ในตู้แช่บ้านเช่าแห่งหนึ่งและได้รับการยืนยันว่า ร่างที่พบก็คือ นายฮันส์ นักธุรกิจที่หายตัวไปจริง
โดยก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับแก๊งผู้ต้องหา ร่วมกันก่อเหตุ นายฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน ในข้อหารวมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน เเละ ปิดบังซ่อนเร้น อำพรางศพ โดยออกหมายจับ 3 ผู้ก่อเหตุ คือ
- นายโอลาฟ มาเฟียชาวเยอรมัน ผู้บงการและวางแผน
- เพื่อนชายนายโอลาฟ สัญชาติปากีสถาน ที่เห็นในวงจรปิดนั่งอยู่ท้ายรถกระบะสีดำกับตู้แช่
- นางเพทรา นางนกต่อ นายหน้าขายที่ดิน ที่รับเงินจ้างวาน 8 เเสนบาท และเป็นคนที่อยู่กับนายฮันส์เป็นคนสุดท้าย
ล่าสุด เพจ มูลนิธิ วิน วิน ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพิ่มเติมว่า "ในวันที่ตำรวจเรียกมาให้ปากคำ ระหว่างช่วงที่ปล่อยให้นายโอลาฟและเพื่อนอีกคนชื่อนายริโก้ ไปพัก ได้มีการสูบบุหรี่และยืนพูดคุยหน้าโรงพักกันในท่าทีสบายใจพร้อมพูดเป็นภาษาเยอรมันว่า
"ไม่ต้องพูดอะไร ถ้าพวกมันไม่เจอร่าง ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้"
ซึ่งคนที่ได้ยินและนำมาแจ้งให้ทางมูลนิธิเราทราบที่คือลูกชายของนายฮันส์ ที่สโมสรตำรวจเมื่อวานนี้ เพราะในวันที่เรียกผู้ต้องสงสัย นายร็อค โอลาฟและริโก้ เวลานั้นครอบครัวคุณฮันส์ปีเตอร์ได้อยู่ที่โรงพักเช่นกัน ทั้งนี้ ลูกชาย นายฮันส์พูดอีกว่า
"ผมแกล้งทำเป็นฟังไม่ออกเพื่อฟังเนื้อหาที่พวกเค้าคุยกัน"
แน่นอนว่า ลูกชายนายฮันส์ถึงกับตกใจแต่ก็ยังมีสติ เพราะตนเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฆาตกรจะกล้าพูดสิ่งแบบนี้ต่อหน้าลูกของคนที่พวกเขาเพิ่งฆาตกรรมไป ถือเป็นการหยามเกียรติและเย่อหยิ่งต่อกฎหมายและสามัญสำนึกความเป็นมนุษย์อย่างมาก อีกทั้งในวันนั้นนายโอลาฟและริโก้ยังไม่ถูกควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด"
ภาพจาก มูลนิธิ วิน วิน