ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามองกับ "ดราม่าน้ำปลาร้าเดือด" ระหว่าง พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง กับ เจ๊กบ เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมอ้างโดนพิมรี่พาย เทออเดอร์น้ำปลาร้าพิมรี่พายเป็นล้านขวดทำเอาหมดตัวต้องเป็นหนี้ ด้าน พิมรี่พาย ก็โต้กลับว่าเป็นเพราะสินค้าที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานตามที่ตกลงกันไว้
จนต่อมา "พิมรี่พาย" ทนไม่ไหว ปล่อยโฮกลางไลฟ์สด ต่อหน้าลูกค้า หลังเจอดราม่าหนัก บอกว่าพูด มากไม่ได้เพราะทางทนายไม่ให้พูด กำลังรวบรวมหลักฐานและจะไปเล่าทุกอย่างในชั้นศาล โดยในช่วงหนึ่งของไลฟ์สด เจ้าตัวได้มีการระบายความอัดอั้นตันใจถึงดราม่าที่เกิดขึ้น โดยรู้สึกน้อยใจที่ถูกชาวเน็ตด่าแรงตลอดหลายวันที่ผ่านมา วอนอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน รอวันความจริงปรากฎ ขอให้ทุกคนขอโทษในใจก็พอ หรืออโหสิกรรมให้กันแล้วกัน
ในส่วนของทางด้าน เจ๊กบ เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า นั้นก็มีหลายคนยื่นมือเข้าช่วยเหลือและได้เดินสายออกรายการต่างๆเพื่อตอบดราม่าที่เกิดขึ้น โดยล่าสุดได้ไปออกรายการคุยทะลุดราม่าและได้มีการต่อสายคุยกับอดีตเพื่อนร่วมงานของเจ๊กบและได้มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดในรายการ
ล่าสุด วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาทำคลิปวิเคราะห์ดราม่าที่เกิดขึ้น โดยสามารถจับใจความประเด็นหลักได้ว่า "แก่นของเรื่องนี้อยู่ตรงนี้ เขาประเมินว่าที่พิมรี่พายไปสั่งออเดอร์โรงงานเจ้าเยอะๆในไทยหลายๆเจ้าเพื่อจะมาผลิตให้ เพราะในช่วงนั้นเป็นช่วงที่พิมรี่พายขาขึ้น ขายอะไรก็ขายดีและต้องการสินค้าเดี๋ยวนั้น ซึ่งในการผลิตน้ำปลาร้า เขาไม่ได้สต็อกของไว้ พิมรี่พายจะเอาออเดอร์เป็น 10 ล้านขวดแต่เขาไม่ได้สต็อกของไว้ เมื่อเขาไม่ได้สต็อกของไว้ เขาก็ต้องใช้วิธีการสั่งผลิตหลายๆโรงเพื่อมาส่ง นี่วิธีแก้ปัญหานะ"
"ส่วนไอครั้นว่าจะไปรอเจ๊กบสร้างโรงงานเสร็จมันไม่ทันขายของครับ ก็ว่ากันตรงๆคนค้าขายจะเอาของไปขายวันนี้เขาไม่ได้จะเอาไว้ขายปีหน้า เพราะฉะนั้นนี่คือมุมของแม่ค้า นี่คือมุมของแม่ค้าออนไลน์ที่จะมาหาซื้อน้ำปลาร้าไปขาย นี่คือมุมนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่าต่อให้เค้าบอกว่าเขามีออเดอร์ 26 ล้านขวดแต่เขาให้คุณไปแกะสูตรจากโรงงานเจ้าหนึ่งที่ไม่ใช่ต้นฉบับออริจินัลของโรงงานคุณ ประเด็นตรงนี้นี่แหละครับ และในวงการปลาร้า พ่อหนุ่มคนนั้นที่เป็นเซลล์เขาก็พูดชัดเลยว่ามันไม่สามารถ copy ได้ 100% มันเต็มที่ได้แค่ 95 เพราะว่าเครื่องจักรไม่เหมือนกัน ยังไงรสชาติก็ต่างกัน"
"เพราะฉะนั้นจะให้โรงงานเจ๊กบไป copy โรงงานที่พิมรี่พายเอาเป็นต้นแบบเขาเลยมองว่ายังไงก็ไม่ได้ 100% เพราะมันทำคนละแบบ ซึ่งก็มีปัญหาจริงๆเรื่องลิ้นที่ว่านี้ ส่วนที่ว่าเค็มมากเค็มน้อยนั้นบอกยาก ปลาร้า 2 ขวดเทออกมาใส่จานต่างกัน สีต่างกัน ความน่ากินต่างกัน มันคืออาหารเป็นเรื่องของความพึงพอใจ ซึ่งถ้ามองในมุมเรื่องความพอใจในอาหาร เรื่องนี้ พิมรี่พายไม่ผิดเลยนะ เพราะว่าแม้จะมี po สั่งสินค้า แต่มันมีเงื่อนไขความพึงพอใจลูกค้า ไม่พอใจเขาก็ไม่สั่งต่อ เพราะงั้นถ้าจะบอกว่าผิดเดี๋ยวต้องไปว่ากันว่าแต่ละคนมีหลักฐานอย่างไรบ้าง"
"แต่ผมจับใจความหลักๆได้คือความพอใจของคนสั่งก็คือพิมรี่พาย เขาไม่เอา ส่วนว่าลิ้นเขาดีไม่ดีก็ดูจากปริมาณที่เขาขายของก็แล้วกัน"
พร้อมพูดทิ้งท้ายว่า "อย่างไรเรื่องนี้ ยังไง จบไหม ไม่รู้สิ แต่อันนึงที่ได้ฟังจากแคนดี้ รากแก่น ถ้าวันนี้คุณผู้ชมจะไปซื้อโรงงานเจ๊กบ ซื้อไม่ได้นะ เจ๊กบไม่มีของผลิตแล้ว คือหมดตัว รับออเดอร์ไม่ได้เลย ก็เลยกลายเป็นว่าที่สั่งกันในไลน์นั่นไม่มีของ"
ทนายรณณรงค์ ยังบอกด้วยว่าเป็นที่ปรึกษาในคดีทำนองนี้มาก็เยอะเรื่องระหว่างคู่ค้า มีวิธีหนึ่งจะป้องกันเรื่องการโกงได้ก็คือการเก็บมัดจำ "คือเงินมาของไปนั่นเองครับ"
ขอบคุณ ทนายคู่ใจ