"AQUA"แจ้งความเอาผิด "ทันหุ้น"พร้อมพวก สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้เสื่อมเสีย

   “AQUA” ในฐานะ ผู้ถือหุ้น TPL แจ้งความเอาผิด “ทันหุ้น” พร้อมกรรมการบริษัท-บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าวรวม 7 คน ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังสร้างข่าวบิดเบือน สร้างความเสื่อมเสีย ส่งผลกระทบการลงทุน และชื่อเสียง

 

    18ก.ค.66 นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA พร้อม น.ส.ณัชชา ผ่องไพบูลย์ ทนายความ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ทันหุ้น จำกัด “ทันหุ้น” และพวก ในข้อหา นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

 

     นายชัยพิพัฒน์ เปิดเผยว่า บริษัท AQUA ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TPL มาเพื่อแจ้งความ พรบ.คอมฯ เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2566 หนังสือพิมพ์ทันหุ้น และสื่อในเครือ ได้ลงข้อความในสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ ที่มีการอ้างอิงบทความของ “นายพงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” หนึ่งในผู้ถือหุ้นดั้งเดิมของ TPL

และได้พาดหัวข่าวว่า TPL อัปยศ ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรง ต่อนักลงทุนและผู้ถือหุ้น TPL กว่า 5,000 ราย รวมถึงบริษัท AQUA และเมื่อได้ตรวจสอบที่มาของแหล่งข้อมูล ข้อความของนายพงษ์ศักดิ์ ไม่มีข้อมูล หรือข้อความใดตีความได้แบบนั้น

ซึ่งการนำเสนอข่าวของ หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ทำให้บริษัท AQUA ได้รับผลกระทบ ทั้งทางด้านการลงทุน และชื่อเสียง ซึ่งปัจจุบัน บริษัท AQUA ถือหุ้นใน TPL จำนวนกว่า 140 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นกว่า 26%

 

โดยในวันนี้ ได้มีการเตรียมหลักฐานเป็นพยานเอกสาร พยานบุคคล บันทึกแชทไลน์ รวมถึงใบเสนอราคาโฆษณา ที่อาจเชื่อได้ว่า เป็นมูลเหตุจูงใจการกระทำความผิด ต่อพนักงานสอบสวน

“เราอยากสร้างบรรทัดฐานของสื่อ เราเชื่อว่าสื่อทุกคนมีจรรยาบรรณของสื่อ นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา การวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ โดยใช้ข้อมูลจริงๆ ไม่ใช่นำข้อมูลมาบิดเบือน นำเสนอจนสร้างความเข้าใจผิด กับประชาชนทั่วไป

 

    เราเชื่อมั่นในสื่อมวลชนที่เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา และอาชีพสื่อเป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่บางครั้งการไม่สนับสนุนการลงโฆษณาใดๆ ก็จะมีการเสนอข่าวในมูลที่บิดเบือนออกไป จนสร้างความเสียหายกับผู้อื่น และอยากให้กรณีนี้ เป็นกรณีตัวอย่าง ให้นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้น ที่ถูกนำเสนอข่าวบิดเบือน ลุกขึ้นมาสู้ เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง” นายชัยพิพัฒน์กล่าว

 

 

   สำหรับ ข้อกล่าวหาของคดีนี้ ถือเป็นคดีความที่มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กับทั้งเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ แต่อย่างก็ตาม การร้องทุกข์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการทางกฎหมายซึ่ง ทันหุ้น และ ผู้เกี่ยวข้อง ที่มีชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทั้งหมด ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ และ มีสิทธิที่จะพิสูจน์ตนเองเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อไป