สภาพ แอม ไซยาไนด์ ล่าสุดขึ้นศาล แสดงอาการหวาดผวา กลัวรูปก้อย

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับ แอม ไซยาไนด์ ซึ่งที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายระพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานคดีเหยื่อถูกวางยาพิษ พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีที่ถูก น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ เป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่นายระพีไปออกรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

ภายหลังจากการไต่สวนมูลฟ้องคดี นายเดชาทนายความของนายรพี กล่าวว่า ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยไป 2 คน คือ พ่อและแม่ของน.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่พบว่าเกี่ยวข้องกับแอม ไซยาไนด์ ซึ่งขณะไต่สวนพบว่า แอม ไซยาไนด์ มีอาการหวาดกลัว โดยเฉพาะช่วงที่นำภาพถ่ายของน.ส.ศิริพร หรือ ก้อย มาให้ดู โดยอ้างว่าจำภาพของน.ส.ศิริพรไม่ได้ เป็นผลมาจากกินยามาก และไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพที่ทนายความนำมาให้ดู

พร้อมกันนี้ นายเดชา ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาน.ส.สรารัตน์ พูดไม่ตรงกับความจริงหลายครั้ง มีการกลับคำให้การไปมา และดูเหมือนจะหวาดกลัวกับการรับความจริง แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่ตำรวจได้นำมาสอบสวนอยู่ในสำนวนคดี จึงไม่ทราบว่าทำไมน.ส.สรารัตน์ ถึงคิดต่อสู้คดี โดยคดีนี้ถือว่าไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 09:00 น.

ส่วนการที่จะขอเป็นโจทก์ร่วมของบิดาเเละมารดาของ น.ส.ศิริพร ในคดีฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ศาลได้นั้นตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 ต.ค.นี้ และมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่แน่นหนา และศาลสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้

อย่างไรก็ตาม ส่วนแม่ของน.ส.ศิริพร กล่าวว่า ในระหว่างที่ฟังแม่ของน.ส.สรารัตน์เบิกความต่อศาลก็ไม่เชื่อในคำให้การที่บอกว่า ลูกเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่คิดทำร้ายผู้อื่น แต่เห็นว่าขัดแย้งกับพฤติการณ์ของน.ส.สรารัตน์ และมั่นใจว่าเป็นคนทำร้ายลูกสาวของตัวเอง ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ได้ซักค้านในคำให้การของฝ่ายโจทก์ แต่ก็ขอให้เวรกรรมมีจริง ส่วนน.ส.สรารัตน์ที่เห็นในห้องพิจารณาคดี ก็พบว่ามีลักษณะซูบผอม ตัวเล็กลง และมีความกังวลหวาดกลัวอะไรบางอย่าง