กลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนแรง กรณี พรรคเพื่อไทย ล้มกระดาน แยกทางกับ "พรรคก้าวไกล" ในการจัดตั้งรัฐบาล เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแชท อ้างเป็นคำพูด ปธ.ร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า "#จัดตั้งรัฐบาล2566 ขณะที่ #พี่ใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย ยังแกว่ง ไม่กล้าตัดสินใจว่าจะรวมกับ 8พรรคร่วมฯ ตามMOUเดิม หรือฉีกไปใช้สูตร #ไขว้ข้ามขั้ว + #เศรษฐา + #เผด็จการ
ฝ่าย สว.กลับผนึกกำลังกันเหนียวแน่น กดดันการ #โหวตนายก ด้วยการทำ CG ส่งทางไลน์กลุ่ม ถึง สว.13คน ที่เคยโหวตเลือก #พิธา เป็น #นายกคนที่30 อ้างว่าเป็นคำพูดของ อดีตประธาน คณะกรรมการร่าง #รัฐธรรมนูญปี60 ว่า...
"ท่านต้องรักษาชาติ ไม่ใช่ประชาธิปไตย
ชาติต้องมาก่อน ถ้าสิ้นชาติแล้ว
ประชาธิปไตย ก็ไม่มีความหมาย"
อ.มีชัย ฤชุพันธุ์
ถ้าเป็นคำพูด อ.มีชัยฯจริง เท่ากับเป็น ปธ.ร่างรัฐธรรมนูญ แต่กลับมาด้อยค่า ประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ แต่ถ้าไม่จริง การที่ สว. อ้างถ้อยคำ อันเป็นเท็จ ส่งกันในไลน์กลุ่มเพื่อสกัด ปชต. ไม่ให้เดินหน้า ก็เป็นเรื่องใหญ่อีกเช่นกัน การกระทำ คือคำตอบ: #สวมีไว้ทําไม #สว250 มีไว้: ถ่วง #ประชาธิปไตย
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานด้วยว่า นายมีชัย ฤชุพันธ์ เคยบรรยายเรื่อง สาระและประเด็นสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ 26 กรกฎาคม 2559 ตอนหนึ่งว่า
"บทเฉพาะกาล (มาตรา 272) บางส่วน เกิดเป็นปัญหาขึ้นมาว่าถ้าเราไม่ได้บังคับให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ ถ้าเกิดมีพรรคใหญ่ ๆ ไม่อยากเสนอชื่อ เขามีปัญหาในพรรคว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ คนที่ 1 2 3 เพราะขืนบอกพรรคแตกแน่ เขาอาจจะไม่บอก แล้วเกิดพรรคนั้นได้ตั้งรัฐบาล แล้วจะทำอย่างไร เราก็เออ..อันนี้ของใหม่ เราต้องคิดหาทางออกให้เขาหน่อย
เมื่อจะต้องยกเว้นรัฐธรรมนูญ เราเขียนบทเฉพาะกาลว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเลือกนายกฯ จากบัญชีรายชื่อนั้นได้ ให้เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อขอยกเว้นว่าจะเอาคนจากนอกบัญชี ถามว่าทำไมต้องเรียกประชุมรัฐสภา ก็เพราะจะเป็นการยกเว้นรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจของที่ประชุมร่วมรัฐสภา
แต่ถ้ารัฐสภาเห็นชอบว่า โอเค..ไปเถอะ เข้าตาจนแล้วไปเอาคนอื่น ไม่เอาตามบัญชีรายชื่อ เขาก็กลับไปเลือกกันเอง วุฒิสภาไม่เกี่ยวแล้ว ส.ส. ไปเลือกกันเอง ก็เพื่อรักษาหลักที่ว่าผู้แทนราษฎรจะเป็นคนเลือกนายกฯ จึงเป็นที่มาของคำถามพ่วงให้ ส.ว. ร่วมเลือกนายกฯ ด้วยจะดีไหม เพราะอันนี้ไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญของเรา
จากนั้น 8 สิงหาคม 2559 หลังรัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการลงประชามติก่อนประชามติ (7 สิงหาคม 2559) “มีชัย” กล่าวว่า ตนขอเรียนว่าในการกำหนดหาตัวนายกรัฐมนตรีนั้น ส.ว.ไม่มีหน้าที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่จะเป็น ส.ส.ที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคการเมืองที่เสนอก่อนการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีปัญหาที่ต้องคิดก็คือว่า ตามบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญระบุว่าในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรกโดยที่ประชุม ส.ส.นั้น ถ้าหากที่ประชุม ส.ส.ไม่สามารถหาตัวนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคการเมืองที่เสนอก่อนการเลือกตั้ง ก็ให้รัฐสภาโดย ส.ว.มาร่วมประชุมเพื่อให้มีข้อยกเว้นให้ ส.ส. และ ส.ว.ร่วมกันเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองด้วยได้"
ก่อนหน้านี้ น.ต.ศิธา ทิวารี เคย ตั้งคำถามกับพรรคเพื่อไทย ถ้าทำตาม 3 ข้อหลัก ๆ ที่ให้ข้อคิดไว้ ก่อน-ระหว่าง-หลัง 3 ข้อหลัก ได้แก่
1.ชัดเจนเรื่องไม่รวม 2พรรคลุง เพื่อไทยอย่าไปใช้มาตรฐานเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ มิฉะนั้นคะแนนจะสูญสิ้น #ศรัทธาประชาชน จะหมดไป
2.ให้ความเป็นธรรมกับอดีตนายกทักษิณ ด้วยการออกกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่โดนขบวนการ #นิติสงคราม อันเป็นผลพวงของการรัฐประหาร ด้วยการนำคดีมาพิจารณาใหม่ ตามกระบวนการยุติธรรม ที่นานาอารยะประเทศยอมรับ
3.ทำ #AdvanceMOU มัดรวม 312เสียง ให้มั่นคง เพื่อให้เสียงของ #ประชาชน ที่ออกไปเลือกตั้งตามระบอบ #ประชาธิปไตย เป็นปึกแผ่นเพียงพอที่จะเอาชนะ #สว250 อันเป็น #นิติสงคราม ที่ฝังไว้ใน #รัฐธรรมนูญ ได้
พร้อมกันนี้ น.ต.ศิธา ยังได้โพสต์ล่าสุด หลังมีรายงานว่า ที่ประชุม พรรคเพื่อไทยได้ขอให้พรรคก้าวไกล ถอยกรณีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากบรรดาพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในขั้ว 8 พรรคที่ลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาลปัจจุบัน รวมถึง สว. มีความกังวลในเรื่องนี้ และไม่สามารถที่จะช่วยโหวตนายกรัฐมนตรี ให้กับแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยได้
ขณะที่ พรรคก้าวไกลยืนยัน ไม่ยอมถอยเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ดังกล่าว ทำให้เป็นสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องขอสลาย 8 พรรคที่ลงนาม MOU ปัจจุบัน โดยจะไปจับขั้วใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเอง ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ยืนยันหนักแน่นว่า หากจะเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องไม่มีการแก้ไขมาตรา 112
อย่างไรก็ตาม ข้อความที่ น.ต.ศิธา โพสต์นั้นระบุเพียงสั้นๆ ว่า "#มันจบแล้วครับนาย"