กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนสนใจ เมื่อ น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ พลอย อดีตแกนนำกลุ่มอกลุ่มทะลุวัง ทวีตข้อความถึงการเคลื่อนไหวของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง อายุ 26 ปี แกนนำกลุ่มทะลุวังในช่วงที่ผ่านมา ก่อนจะประกาศแยกทางไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2565 และลี้ภัยไปที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ทำเอาแฮชแท็กทะลุวัง พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ขึ้นมาทันที โดยระบุว่า
"เราเคยเป็นหนึ่งในเด็กที่บุ้งเอามาดูแลเหมือนหยก รู้จักกันตั้งแต่สมัยอยู่ (กลุ่ม) นักเรียนเลว ตอนนั้นที่บ้านเรามีปัญหาทำให้ไม่มีบ้านอยู่ โดนคดีมันต้องมีผู้ปกครอง บุ้งมาเป็นผู้ปกครองแทนพ่อแม่ที่ดูแลเราไม่ได้ บุ้งก็รับปากเรากับแม่เราว่าจะดูแลเราอย่างดี
บุ้งดูแลเราอย่างดีในช่วงแรกที่อยู่ด้วยกัน เรายังคงอยู่กับบุ้งเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน บ้านก็ไม่มีให้กลับ ตอนนั้นเราเริ่มสัมผัสได้ถึงความรุนแรงในบ้านที่อยู่กับบุ้ง การถูก Child Grooming (การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ) การโดนมินิพูเลต (manipulate คือโดนหลอกใช้) และการขูดรีดผลประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในฐานะเยาวชนเพราะเราอายุแค่ 16 ปี
ตัวโต บุ้งมักจะชอบดูแลเด็กที่มีปัญหากับที่บ้านหรือมีปัญหาในชีวิตและมีแสง บุ้งจะรับเด็กมาดูแล อาสาเป็นผู้ปกครอง และค่อยๆ ใช้ประโยชน์จากเด็กคนนั้น เรากับเพื่อนโดนเอาผลงานการเคลื่อนไหวไปขอทุนเคลื่อนไหว แต่เงินทุนกลับส่งไม่ถึงเรา เพื่อนหลายคน และไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบุ้งได้
เรื่องการใช้ความรุนแรงของบุ้งกับเราและเพื่อนๆ เขาทำเหมือนที่ทำกับยามหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนโมโห เขาจะใช้อารมณ์ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว ด้อยค่า ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ตามสไตล์มินิพูเลต ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เราโดนมินิพูเลตจนทุกวันนี้ยังกลับมาใช้ชีวิตยาก
บุ้งชอบให้เด็กออกมาเคลื่อนไหว เทกแอ็กชันแรงๆ โดยบุ้งบอกกับเราว่าเรายังเด็ก ต่อให้โดนคดีก็ยังไม่โดนหนักเพราะยังมีศาลเยาวชน และเด็กถ้าเจอความรุนแรง เช่น ตำรวจจับ บลาๆ จะเป็นข่าวง่าย ขอทุนง่าย ไวรัลง่ายกว่า แล้วบุ้งอ้างว่าจะซัปพอร์ตน้องๆ อยู่ข้างหลังแทน
จนเริ่มทำ "ทะลุวัง" เราโดนหนักมากขึ้น บังคับให้เราออกไปทำอะไรเเรงๆ แรงสุดคือเคยโดนให้ไปบุกคุกวังทวี (วังทวีวัฒนา หรือเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล) แต่ตอนนั้นเราบอบช้ำจากการเคลื่อนไหวมามากแล้ว เหนื่อยโดนคดี เราบอกว่าสภาพจิตใจเราไม่ไหว ไม่อยากทำ ก็โดนปิดประตูใส่หน้า อยากจะหนีก็ไม่ได้ เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว
เราลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเคลื่อนไหว เงินก็ไม่มี ครอบครัวก็ทิ้ง ตอนนั้นเราคิดว่าเราต้องพึ่งพาแค่บุ้งเท่านั้น สุดท้ายหลุดออกมาได้เพราะเพื่อนรอบตัวให้ความช่วยเหลือ เป็นผู้ปกครองให้แทน จนปัจจุบันเราเป็นผู้ลี้ภัย 112 อยู่ต่างประเทศ เราก็ยังโดนเขาโจมตีในขบวนเสียๆ หายๆ อยู่เรื่อยๆ
นอกจากนี้ พลอย ระบุว่า ควรมีการถกกันเรื่องนี้สักที เด็กกับการออกมาเคลื่อนไหวเนี่ย เด็กไม่ได้เจอแค่การคุกคามจากรัฐ ครอบครัว สังคม แต่อาจจะโดนขบวนเ...ยๆ ทำร้าย โดนขูดรีดความเป็นเด็ก โดนมินิพูเลต คนที่ได้รับผลกระทบก็คือตัวเด็กเอง มันส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กระยะยาวมาก นี่ยังเป็นซึมเศร้าอยู่เลย
เลิกด่าหยก เด็กเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ คนโดนมินิพูเลตมันไม่รู้ตัวหรอก หยกเจอความรุนแรงมามากตั้งแต่ติดคุก ทั้ง Cyber bullying โดนคดี สังคมเฮงซวย ต้องมาเจอกลุ่มทะลุวัง หยกเหมือนกระจกสะท้อนตัวบุ้ง หยุดโจมตีเด็กได้ หันมาสนใจอะบิวเซอร์ (abuser คือผู้ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด) กันเยอะๆ ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่
ช่วยเหลือและรับฟังความต้องการของหยก หยุดให้แสงหรือโทษคนที่กำลังโดนมินิพูเลตก่อน มันละเอียดอ่อนทั้งตัวของเหยื่อและคนมินิพูเลตเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแต่ละวันเหยื่อเจอคำพูด ถูกปฏิบัติแบบไหนมาบ้าง อะไรคือความรู้สึกที่แท้จริง หัวมันปั่นป่วนไปหมดเพราะการมินิพูเลต ใช้ความรุนแรงและกาสไลต์ (Gaslight คือปั่นหัวให้มีความเชื่อที่ผิดๆ)
อย่างไรก็ตาม พลอย เบญจมาภรณ์ ยังได้ ทวีตข้อความแถลงการณ์ขอแยกทางกับองค์กรและกิจกรรมในชื่อ ทะลุวัง - ThaluWang โดยสรุปว่า ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ตนและเพื่อนๆ ตัดสินใจขอออกจากองค์กรทะลุวัง ตอนนี้มีสมาชิกทะลุวังตามที่ได้กล่าวอ้างในพื้นที่สาธารณะเท่านั้น เราและเพื่อไม่ขอข้องเกี่ยวในนามของทะลุวังอีก