จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายธวัชชัย หรือโอมฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดสงขลา ที่ 41/2549 ลง 16 มกราคม 2549 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย”
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.49 เวลาประมาณ 15.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ได้รับแจ้งแจ้งเหตุคนฆ่ากันตาย เหตุเกิดที่บริเวณ ถนนสายระโนด - สงขลา หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสิงหนคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ตายชื่อ นายอภิสารฯ อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกเฉือดด้วยของมีคมที่บริเวณลำคอ หลอดลมขาด ปากขาด ศีรษะด้านหลังมีรอยถูกฟัน ขมับขวาถูกฟัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับนายธวัชชัย หรือ โอมฯ และนายจักรี หรือเอกฯ สองพี่น้อง หลังจากนั้นคนร้ายทั้งสองได้ร่วมกันใช้มีดสปาต้า กระหน่ำฟันไปตามลำตัว และศีรษะ ของผู้ตายหลายแผลจนถึงความตาย แล้วหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งสอง
ซึ่งจากพฤติการณ์การก่อเหตุที่ทารุณโหดร้าย และนายธวัชชัยฯ ได้ใช้ความชำนาญพื้นที่ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้หลายปี ตร.จึงขึ้นบัญชีหมายจับดังกล่าว ให้อยู่ในประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชำติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ลำดับที่ 184
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นายธวัชชัยฯ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล จึงได้วางแผนเข้าทำการปิดล้อมจับกุม โดยเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณบ้านหลังหนึ่งที่เชื่อว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ จึงได้วางกำลังปิดล้อมบริเวณโดยรอบ และกดดันให้นายธวัชชัยฯ ออกจากบ้าน
มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งนายธวัชชัยฯ ยอมจำนนและเดินออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการแสดงหมายจับและจับกุมตัวนายธวัชชัยฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ภ.จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม นายธวัชชัยฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ที่เจ้าหน้าที่แสดงให้ดูจริง และรับว่าได้ร่วมกันนายจักรี หรือเอกฯ พี่ชายใช้อาวุธมีดสปาต้า กระหน่ำฟันผู้ตายจนเสียชีวิตจริง จากนั้นได้หลบหนีไปด้วยกันไปพักอาศัยอยู่ที่ จ.พังงา และในปี พ.ศ.2551 ได้ไปก่อเหตุ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส อีกหนึ่งคดี ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายธวัชชัยฯ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด