เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตาอย่างมาก กรณีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จากสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ก็มีการขานชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเมื่อเวลาประมาณ16.15น. ในส่วนของ สว. ลงคะแนนเห็นชอบให้ "นายเศรษฐา ทวีสิน" เป็นนายกฯ เกิน 62 คะแนน เมื่อรวมกับเสียงของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่มี 314 เสียง ถือว่าได้เสียงเกิน 375 เสียง แม้ว่ารัฐสภายังลงมติไม่จบ แต่ได้เสียงโหวตท่วมท้นแล้ว
โดยก่อนการเปิดโหวตนายกฯรอบ3 (22ส.ค.66) ทางพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล มีจำนวนเสียง 314 เสียง และต้องการเสียงของ สว.อีกแค่ 62 เสียงเท่านั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ นายเศรษฐา โหวตผ่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ในขณะที่ "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวในการประชุมสภา โหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ระบุว่า "ถ้าไม่มี รธน.ฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยไม่มีทางจับมือกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล เรารอ เราเป็นพรรคอันดับ 2 สามารถที่จะแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลได้
ถ้ากลไกการเมือง รธน.เป็นปกติ แต่ด้วยสภาพบังคับของ รธน.อย่างนี้ เราไม่ร่วมมือกันไม่ได้ แต่เราก็คิดผิด ยิ่งเราจับมือกัน ยิ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้" งานนี้ทำเอาโซเชียลถึงกับเดือดระอุ แห่คอมเมนต์กันสนั่นเลยทีเดียว