จากกรณีเมื่อ วันที่ 29 ส.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันนโยบายเพื่อไทย เรื่อง เงินดิจิทัล 10,000บาท ในช่วงต้นปี 2567 คนไทย 56 ล้านคน รอรับเงินคนละ 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตได้เลย
โดยนายเศรษฐา เผยว่า นอกจากการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ที่จะนำเงินนอกมาปลุกเศรษฐกิจไทยให้เงินไหลเข้าประเทศ รัฐบาลภายใต้การนำของเพื่อไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการลงทุนและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศทันทีด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตคู่ขนานกันไปเพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวครั้งใหญ่ ทั้งนี้ได้คุยกับกระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ฯ เบื้องต้น เพื่อทำความเข้าใจกับทั้งสองหน่วยงานรัฐ
นอกจากนั้นยังได้พูดคุยกันในรายละเอียดเรื่องเทคโนโลยีร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเตรียมระบบที่จะสามารถรองรับการใช้งานสำหรับประชาชนจำนวน 56 ล้านคน และร้านค้าหลากหลายรูปแบบในไทย
รัฐบาลจะเดินหน้ารับฟังความเห็นเพิ่มเติมเพื่อนำมาปรับใช้ ให้นโยบายสามารถปฏิบัติได้จริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด และขอยืนยันตามเป้าหมายเดิมว่าประชาชนจะต้องได้รับดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทภายในต้นปี 2567 อย่างแน่นนอนครับ
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ขณะนี้รายชื่อผู้เหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบคุณสมบัติและขอให้พิสูจน์กันด้วยผลงาน
ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ยกร่างไว้เรียบร้อย รอการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อนำมาหล่อหลอมร่วมกัน โดยยืนยันว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติก็พร้อมนำมาพิจารณา
1. ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นเรียบร้อย กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่าอาจใช้เวลาประมาณ 2 วัน
2. สำหรับนโยบายของรัฐบาลนั้นจะขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดเตรียม โดยนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก ซึ่งร่างเสร็จไว้เรียบร้อย ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทยยกร่างไว้แล้ว เพียงแต่รอเอานโยบายของพรรคร่วมมาเสริมแล้วหล่อหลอมให้เป็นนโยบายเดียวกัน รวมถึงนโยบายพรรคการเมืองอื่นๆ ถ้าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเราก็นำมาพิจารณาหมด
3. นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน พร้อมฝากประเด็นข้อห่วงใยเพื่อช่วยพิจารณาอีก 2-3 ประเด็นอีกด้วย