สืบเนื่องจากเมื่อ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสิทธิ์ ชูธรรม หรือ “แอลดา” อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/239 ซ.เคหะร่มเกล้า 27 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.793/2566 ลง 29 ส.ค. 2566
ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด ยังพบว่ามีประวัติเคยก่อเหตุยักยอกเงินของนายจ้างเมื่อปี 2563 พื้นที่ สน.โชคชัย
พฤติการณ์กล่าวคือ ภัยร้ายของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ เรื่องราวของสาวสองชาวไทยรายหนึ่ง ซึ่งเธอจะใช้ชื่อแทนตัวเองว่า “น้องแอลดา” กริยาท่าทางของเธอชวนให้เหล่านักท่องเที่ยวขี้เหงาที่กำลังหาที่ระบายเพลงรัก ล่าสุดหนุ่มใหญ่นักธุรกิจชาวเดนมาร์ก อายุ 78 ปี เผลอใจตกเป็นเหยื่อในเกมสวาทของสาวสองรายนี้ โดยเริ่มต้นจากความเปลี่ยวของหนุ่มใหญ่ชาวยุโรปที่เข้ามาท่องเที่ยวเพียงลำพังในประเทศไทย ค่ำคืนวันที่ 19 ส.ค. 66 หนุ่มใหญ่ชาวยุโรปรู้จักผ่านแอปหาเพื่อน จึงนัดพบกับสาวสองรายนี้ ณ ดาดฟ้าของโรงแรมชื่อดังย่านสุขุมวิท
หลังดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เพียง 1 ชั่วโมง ทั้งสองจูงมือเข้าห้องพักหนังชีวิตก็ได้เริ่มขึ้น กว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งหนุ่มใหญ่ชาวยุโรป อายุ 78 ปี สลบไสลผู้ต้องหาได้ลงมือกวาดทรัพย์สินของหนุ่มใหญ่ไปหมด โทรศัพท์ เงินสด บัตรเครดิต มูลค่ากว่า 40,000 บาท ชนิดที่ตื่นมาเหลือเพียงเสื้อผ้าไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังส่งข้อความมาไถเงินอีกกว่า 35,000 บาท หวังแบล็คเมลหนุ่มใหญ่ เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ แต่ผู้เสียหายไม่กลัว และเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีและยังได้ขอความช่วยเหลือมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” ให้ช่วยติดตาม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ตรวจสอบหนุ่มใหญ่ผู้เสียหาย พบเป็นชาวต่างชาติชื่นชอบเมืองไทยมาเป็นเวลากว่า 8 ปี เรื่องนี้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงเร่งส่งมือดีชุดสืบนครบาล และสืบ111 ติดตามซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงแรมที่เกิดเหตุเป็นอย่างดี จนกระทั่งนำกำลังจับตัวเธอได้ที่ ซอยอินทามาระ 37 แขวงดินแดง เขตดินแดง จ.กรุงเทพฯ โดยจับได้คาห้องส้วมขณะกำลังถ่ายหนักอยู่ในห้องน้ำ
ในชั้นจับกุม นายสิทธิ์ ชูธรรม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นสาวประเภท 2 ซึ่งยังไม่ได้แปลงเพศ และจะชอบนัดหลับนอนกับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เป็นคดีนี้ตนเองรู้จักกับเหยื่อได้เพียง 1 วัน จากนั้นได้นัดหมายให้ไปเจอกันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยมีเพศสัมพันธ์กัน 5 ครั้ง ซึ่งตนเองรู้สึกเจ็บทวารแต่ไม่ได้เงินทิป จึงเกิดอารมณ์โมโห กระทั่งเหยื่อได้หลับสนิท ตนเองจึงตัดสินใจลงมือขโมยทรัพย์สิน โดยเอาเงินสด , โทรศัพท์และบัตรเครดิต ของเหยื่อไป และหลังจากนั้นได้นำบัตรเครดิตไปรูดซื้อโน้ตบุ๊ค ส่วนโทรศัพท์ได้นำไปขายต่อให้กับคนรู้จักย่านดินแดง โดยตอนนี้สำนึกและขอโทษที่ทำให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียง จะให้ความร่วมมือ พร้อมเตือนภัยถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า “To all tourists visiting Thailand, please be aware of who you trust and always ensure your safety and always look out for your valuables when possible put all your valuable in the safety deposit box in your hotel.” หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สนลุมพินี ดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยปัจจัยสำคัญข้อแรกคือ ความปลอดภัย เหตุการณ์เช่นนี้สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวช่วยกันระวังภัยทุกรูปแบบ หรือหากท่านพบเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ที่ บก.สส.บช.น. ทางโทรศัพท์หรือช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”