สตม. ตอบรับนโยบาย "ฟรีวีซ่าจีน" แต่หวั่น จีนเทา จีนดำ ทะลักเข้าไทยมากขึ้น

04 กันยายน 2566

สตม. ขานรับนโยบายฟรีวีซ่าจีน แต่ยอมรับ จีนเทา จีนดำ อาจหลุดรอดเข้ามาปะปน หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายการเปิดฟรีวีซ่าให้กับชาวจีนภายในวันที่ 1 ตุลาคม 66 นี้

วันที่ 4 กันยายน 2566 จากกรณีที่มีรายงาน สตม. ยอมรับนโยบายฟรีวีซ่าชาวจีน เผยเป็นงานหนักของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเกรงว่าจะมีกลุ่มจีนเทา จีนดำ ทะลักเข้ามาไทยมากขึ้น เตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจ โดยเฉพาะสนามบินต่างๆ ในช่วงเร่งด่วนหนาแน่น รับชาวจีนทะลักเข้าไทยมากขึ้น

สตม. ตอบรับนโยบาย ฟรีวีซ่าจีน หวั่น จีนเทา จีนดำ ทะลักเข้ามาไทยมากขึ้น

สืบเนื่องจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายการเปิดฟรีวีซ่าคนจีนภายในวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยว และสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น หลังนโยบายออกมาบางหน่วยงานเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมถึงภาคเอกชนให้ความเป็นห่วงว่าจะเกิดการไหลของกลุ่มชาวจีนผิดกฎหมาย ทุนจีนสีเทา หรือทัวร์ศูนย์เหรียญ และความหนาแน่นในการเข้าออกของนักท่องเที่ยว

สตม. ตอบรับนโยบาย ฟรีวีซ่าจีน หวั่น จีนเทา จีนดำ ทะลักเข้ามาไทยมากขึ้น

พลตำรวจโท ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับนโยบาย แต่ยอมรับว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องความแออัดหนาแน่นตามช่องทางตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ โดยเฉพาะตามสนามบิน ซึ่งปัจจุบันก็มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในช่วงเวลาต่าง ๆ มากอยู่แล้ว แต่หากมีการปล่อยฟรีวีซ่าชาวจีนเข้ามา อาจเกิดปัญหามากขึ้น 

 

โดยได้เตรียมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปบริเวณช่องตรวจในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีจำนวนผู้โดยสารเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก 

ปัจจุบันมีช่องทางตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินที่เปิดให้บริการพร้อมกันเต็มศักยภาพ 119 ช่อง หากมีเปิดฟรีวีซ่าชาวจีน ก็ต้องเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาโดยเฉพาะ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ 

ที่ผ่านมาทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เคยทำเรื่องขอให้การท่าอากาศยานไทยเพิ่มพื้นที่ในการติดตั้งช่องทางของตรวจเพิ่ม แต่การท่าอากาศยานไทยไม่สามารถจัดพื้นที่เพิ่มให้ได้ จึงต้องใช้พื้นที่เท่าเดิม

สตม. ตอบรับนโยบาย ฟรีวีซ่าจีน หวั่น จีนเทา จีนดำ ทะลักเข้ามาไทยมากขึ้น

ยอมรับว่า มาตรการดังกล่าว อาจทำให้มีชาวจีนผิดกฎหมายซึ่งอาจเป็นกลุ่มทุนจีนสีเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่ หลุดรอดเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่ตำรวจก็ต้องไล่ติดตามจับกุมตัวตามขั้นตอน ยอมรับว่าเป็นงานหนักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จะเพิ่มขึ้น

ด้านพลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า กรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าหากมีกลุ่มชาวจีนที่กระทำผิดกฎหมายเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นจะสามารถติดตามตัวได้หรือไม่ ยืนยันว่าขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีระบบติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศโดยใช้ระบบตามมาตรา 38 คือขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวกรอกที่อยู่รายละเอียดที่พักที่จองไว้ล่วงหน้า 

รวมถึงให้สถานบริการที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยวประเภทต่างๆ แจ้งข้อมูลผ่านระบบ dashboard ให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับทราบเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดตามตัวนักท่องเที่ยวแต่ละคน  รวมถึงตรวจสอบประวัติข้อมูลติดตามในภายหลัง นอกจากนี้ยังเตรียมทำระบบติดตามระบบใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ซึ่งคาดว่าจะนำระบบดังกล่าวมาใช้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งใช้ระบบฟรีวีซ่าเข้ามาในประเทศได้หากระบบมีความพร้อม