บิ๊กโจ๊ก สั่งสอบ 21 ตำรวจ จ่อฟัน 157 ระดับ ผกก.3-4 นาย ไปบ้านกำนันนก คืนเกิดเหตุ

08 กันยายน 2566

บิ๊กโจ๊ก สั่งสอบ 21 ตำรวจ จ่อฟัน 157 ระดับ ผกก.3-4 นาย ไปบ้านกำนันนก คืนเกิดเหตุ เตรียมลงพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐมตรวจสอบสำนวน

วันที่ 7 ก.ย.66  จากกรณีสารวัตรทางหลวงโดนยิงเสียชีวิต โดยคนร้ายคือ "หน่อง ท่าผา" ธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องคนสนิท "กำนันนกนครปฐม" นายประวีณ จันทร์คล้าย  ใช้อาวุธปืนยิง "สารวัตรแบงค์"พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตขณะไปร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารที่บ้านกำนันนก ในจ.นครปฐม  ล่าสุด พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งสอบ 21ตำรวจ พร้อมจ่อฟัน 157  อีกผกก.3-4 นาย อยู่บ้านกำนันนกในคืนวันเกิดเหตุ  

บิ๊กโจ๊ก สั่งสอบ 21 ตำรวจ จ่อฟัน 157 ระดับ ผกก.3-4 นาย ไปบ้านกำนันนก คืนเกิดเหตุ

 โดย บิ๊กโจ๊ก เปิดเผยว่า ตนจะเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เพื่อติดตามคดีและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนให้มีความรัดกุม เนื่องจาก กลุ่มผู้ต้องหารู้จักข้าราชการในพื้นที่จำนวนมาก จึงต้องมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อสั่งฟ้องได้  และจะทำการตรวจสอบ 21ตำรวจ ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุบ้าน"กำนันนกนครปฐม" แต่กลับได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน ทั้งการเช็ดคราบเลือด การถอดกล้องวงจรปิด จึงต้องตรวจสอบตำรวจแต่ละคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 

 

บิ๊กโจ๊ก สั่งสอบ 21 ตำรวจ จ่อฟัน 157 ระดับ ผกก.3-4 นาย ไปบ้านกำนันนก คืนเกิดเหตุ

 

ในจำนวนนี้ มีตำรวจระดับ ผกก. 3-4 นาย อีกทั้ง บางคน มีต้นสังกัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่กลับพบไปปรากฎตัวในพื้นที่เกิดเหตุด้วย และยังมีผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดนครปฐม ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนของทั้งจังหวัด   โดยจะต้องสอบสวนตำรวจทุกนาย ถึงสาเหตุที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน-ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป  หากพบตำรวจรายใด ปล่อยปละละเลย และมีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย 

บิ๊กโจ๊ก สั่งสอบ 21 ตำรวจ จ่อฟัน 157 ระดับ ผกก.3-4 นาย ไปบ้านกำนันนก คืนเกิดเหตุ

 

 

   นอกจากนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่ เข้มงวดกวดขันผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โดยต้องปิดล้อมตรวจค้นแหล่งมั่วสุม และปราบปรามอาวุธปืน โดยมองว่า หากผู้กำกับการและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่าง ๆ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จะไม่มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หากพบ ก็ต้องถูกดำเนินการทั้งทางปกครองและวินัย