วิจารณ์สนั่น พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

13 กันยายน 2566

ดราม่า "พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์" ชาวเน็ตแห่สงสัยทำไปเหมาะสมแล้วหรือไม่ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

กลายเป็นประเด็นที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อเพจเฟซบุ๊ก ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พระสงฆ์รูปนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ชาวเน็ตหลายคนเห็นแล้วต่างตั้งขอสงสัยว่าว่าการกระทำดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ แล้วทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า

 

วิจารณ์สนั่น พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

"พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รองเจ้าคณะอำเภอ จังหวัดร้อยเอ็ด ฉันข้าวในบาตร" จากคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่ง นั่งในบาตรขนาดใหญ่ พร้อมฉันข้าว ฉันน้ำและเครื่องดื่มชูกำลัง ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้ม โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ บ่สมควรทุกประการ, ฉันข้าวในบาตรของแท้, ทำเพื่ออะไร..เศร้าใจ, ว้าวุ่นเลยทีนี้ญาติโยม  ไม่น่าทำ เป็นต้น

 

วิจารณ์สนั่น พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

 ตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โดย พระครูอุบล เขมาภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภออาจสามารถ เจ้าอาวาสวัดอุบลบรทิพย์ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่นั่งฉันข้าวในบาตรพระ ได้เปิดเผยว่า การที่ฉันข้าวในบาตรเมื่อวานนี้น่าจะเป็นองค์แรกของโลกที่ฉันข้าวในบาตรจริงๆ เมื่อวานมีงานถนนวัฒนธรรมฯ ที่วัดปุราบ้านเป้า อาตมาจึงไปร่วมกิจกรรมและร่วมงาน หลังเสร็จกิจกรรมก็ได้รับการนิมนต์ให้ไปฉันอาหารเพลที่ศาลาการเปรียญของวัดและตนได้เหลือบไปเห็นบาตรใบใหญ่ ก็เลยคิดได้ว่าถ้านั่งไปฉันข้าวในบาตรใบใหญ่นี้ได้ก็ถือว่าจะเป็นองค์แรกจริง ๆ เลยลงไปนั่งดู

วิจารณ์สนั่น พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

เมื่อมีญาติโยมเอาภัตตาหารมาประเคน ก็ฉันพอเป็นพิธีนิดหน่อย ให้เห็นว่าเป็นการฉันข้าวในบาตรจริงๆ อาตมาบวชมา 50 ปีไม่เคยมีและก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรกคิดว่าไม่ผิด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ เป็นการปฏิบัติจริง ซึ่งอาตมาเองมีน้ำหนัก 52 กิโลกรัมสูง 166 ซม. ส่วนในสังคมจะคิดหรือตีแผ่เรื่องธรรมะวิจารณ์ สังคมวิจารณ์ได้อยู่แล้ว แต่การวิจารณ์นั้นมีหลักธรรมประจำกายประจำใจ ซึ่งอย่างอาตมาให้วิจารณ์ได้อยู่แล้ว เพราะไม่คิดว่าผิดอะไร

วิจารณ์สนั่น พระนั่งฉันข้าวในบาตรยักษ์ ทำไปเพื่ออะไร ล่าสุดหลวงพ่อแจงแล้ว

ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา