หลังจากที่ชัดเจนแล้วว่า "นายเศรษฐา ทวีสิน" ได้นั่งแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ทำให้หลายฝ่ายต่างเฝ้าจับตานโยบาย "เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมกับจับตาดูเงื่อนไขของนโยบายดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่
ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงนโยบายต่าง ๆ ระหว่างการแถลงนโยบายที่รัฐสภาว่า ขอบคุณความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาที่ให้คำแนะนำรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินนโยบายยึดโยงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด คนทุกฐานะ และข้าราชการอย่างเท่าเทียม
ในส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หลายคนกังวลเรื่องรัศมี 4 กิโลเมตร เรื่องนี้เราตระหนักดีว่า ชนบทบางพื้นที่อาจมีร้านค้าไม่เพียงพอ จึงต้องขอดูรายละเอียดและดำเนินงานให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสมาชิก ส่วนเรื่องระยะเวลา 6 เดือน เรื่องนี้ก็จำเป็น เพราะเราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้นระยะเวลาที่ตั้งไว้จึงสำคัญมาก
ส่วนในประเด็นที่บางคนต้องการให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร ตอนนี้เรื่องเศรษฐกิจภูมิภาค ต้องใช้การกระตุ้น ถ้าเกิดคนมีถิ่นฐานอยู่จังหวัดใด ก็ควรใช้ที่นั่น ซึ่งมีเวลาถึง 6 เดือนในการกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น เพราะฉะนั้นรัศมี 4 กิโลเมตรต้องคงไว้ ยกเว้นบางเขตอาจจะต้องมีการขยาย นอกจากนี้ รัฐบาลจะผลักดันการท่องเที่ยวมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เช่น การยกเว้นการขอวีซ่าเข้ามาในประเทศไทยสำหรับบางประเทศ อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยตั้งเป้าสร้างรายได้ 3 ล้านล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ นายกเศรษฐา ยังกล่าวอีกา นโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ สมควรได้รับการปรับโดยเร็วที่สุด ตั้งเป้าทำเศรษฐกิจให้โตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ทำให้ค่าแรงขึ้นไปถึง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อวัน ส่วนในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังคงเป็นประโยชน์กับประชาชนก็ยังคงมีอยู่ ไม่ยกเลิก