กรณีสืบเนื่องจาก วันนี้ 20 ก.ย.2566 ศาลฎีกา มีคำพิพากษาตัดสิน "ช่อ พรรณิการ์ วานิช" มีความผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นการตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต
คดีดังกล่าว เป็นคดีเลขที่ คมจ. 1/2565 ที่ ป.ป.ช. เป็นผู้ร้อง ยื่นขอให้วินิจฉัย กรณีกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม โพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ
ย้อนเหตุการณ์เรื่องนี้ เริ่มต้นมาจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ขณะนั้นเป็นเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2562 ให้ตรวจสอบ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊ค ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ น.ส.พรรณิการ์ เป็น สส. ได้รับโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็ได้ระบุว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
ต่อมา 28 ก.พ.2565 ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูล ช่อ พรรณิการ์ หรือ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ที่บังคับใช้กับ สส. กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊คที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร
ล่าสุด ในวันนี้ 20 ก.ย.66 ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา ให้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ให้ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป ไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ส่วนคำขออื่นให้ยก