เรียกได้ว่ากลายเป็นอีกคนที่ได้รับความสนใจอย่างมากขณะนี้ สำหรับ เฮียแต๋ม อุดร หลังพบมีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน 5 หลัง ที่ให้บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เช่าอาศัยและให้นายตำรวจผู้ติดตามไปอาศัยอยู่ หลังถูกตรวจค้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่ง เฮียแต๋ม หรือ นายชินรัตน์ วัฒนกูล เป็นชาว จ.อุดรธานีแต่กำเนิด ทำธุรกิจเกี่ยวกับขนส่งสินค้าขนาดเล็กและห้างค้าปลีกค้าส่งในจังหวัดอุดรธานี ก่อนขยับมาทำธุรกิจขนส่งระดับประเทศ เฮียแต๋มมีชื่อเป็นผู้บริหารความเกี่ยวข้องกับธุรกิจขนส่งใน จ.อุดรธานี 2 ราย คือ บริษัท พี.เค.เอ็ม.ที (2002) จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรของแม่ แวร์เฮ้าส์ ที่ใช้ชื่อเดิมว่า พรของแม่ขนส่ง
นอกจากที่ตั้ง พี.เค.เอ็ม.ที (2002) และพรของแม่ แวร์เฮ้าส์ ยังมีความใกล้ชิดกัน โดยเว็บไซต์ของ พี.เค.เอ็ม.ที (2002) ระบุว่าเมื่อปี 2564 ธุรกิจทั้ง 2 รายนี้ มีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานขับรถขนส่งร่วมกัน
โดยเฮียแต๋ม อุดรถูกจับตามองอย่างมากว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกค้นบ้านพักจากข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนัน ได้อย่างไร หลังจากปรากฏว่าเป็นเจ้าของบ้านที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และญาติพักอาศัย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จ่ายค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท
และเฮียแต๋ม เคยมีชื่อปรากฏเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้ว เมื่อปี 2560 ขณะนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตีตกคำร้องเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกรับสินบนจากผู้ประกอบการคาราโอเกะทั่วภาคอีสาน ซึ่งมติเสียงข้างน้อย (1 เสียง) เห็นว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกรับสินบนจริงจากผู้ประกอบการหลายรายหนึ่งในนั้นคือ เฮียแต๋ม หรือ นายชินรัตน์ ซึ่งกรณีของนายชินรัตน์นั้นจ่ายผ่านคนกลางคนหนึ่ง ขณะที่เสียงข้างมาก (7 เสียง) มองว่าข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูล