จากเหตุการณ์ความไม่สงบหลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์ เปิดฉากโจมตีอิสราเอล ในพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ส่งผลให้มีประชาชนถูกจับเป็นตัวประกันและถูกสังหารเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีแรงงานไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย โดยทางด้าน รัฐบาลไทย ได้เร่งประสานงานช่วยเหลือเตรียมความพร้อมแตนด์บายรอตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับตัวคนไทยกลับประเทศทันที หลังน่านฟ้าของอิสราเอลเปิด
ซึ่งวันที่ 10 ต.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่า ทางเอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอลได้รายงาน ว่าน่าจะมีข่าวดีเพิ่มเติมในการในการอพยพคนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะมีการเตรียมแผนว่าแต่ละวันจะมีการนำคนไทยเดินทางกลับประเทศจำนวนเท่าไหร่
ขณะนี้ยอดล่าสุดที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ 3,000 กว่าคนแล้ว จากแรงงานไทยในอิสราเอลที่มีอยู่กว่า 30,000 คน แต่อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงประมาณ 5,000 คน ซึ่งเราได้มีการทยอยอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยเรียบร้อยแล้วเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะใช้ทุกวิถีทางในการนำคนไทยกลับ ทั้งการเช่าเหมาลำ การใช้เครื่องบินพาณิชย์ของเราเองที่จะนำคนคนไทยกลับเข้ามาให้เร็วที่สุด ชุดแรกที่แน่นอนแล้วจะเดินทางกลับมาถึงวันที่ 12 ต.ค.
เมื่อถามอีกว่าได้รับรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าทางประเทศอิสราเอล ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ทั้งหมด ถ้าเป็นทางการยังไม่สามารถตอบได้ แต่การรายงานจากนายจ้างก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้เพิ่มเป็น 18 คน ส่วนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังมีการเจรจาอยู่เรื่อยๆ
ทั้งนี้ ในโลกออนไลน์ได้มีภรรยาของหนึ่งในแรงงานคนไทยที่เดินไปทำงานประเทศอิสราเอล ออกมาเปิดเผยว่า สามีของเธอเสียชีวิตที่แคมป์คนงาน ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนฉนวนกาซา แต่ทางครอบครัวยังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลแต่อย่างใด
โดยเธอติดต่อกับสามีล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ต.ค. เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือสามีบอกเธอว่าให้เงียบไว้ก่อน มีเสียงกลุ่มคนร้ายกำลังมุ่งหน้าเข้ามาอยู่จุดที่สามีอยู่ สามีบอกว่าวางสายก่อนจะแจ้งหัวหน้างานให้นำกำลังทหารเข้ามาดูแล จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อสามีได้อีก
ก่อนที่ต่อมาจะพยายามทักแชทไปหาเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันของสามี กระทั่งวันที่ 8 ต.ค. เพื่อนร่วมงานของสามีตอบแชทกลับมาว่า ให้ทำใจ ตนจึงตอบกลับไปว่าเห็นศพสามีไหม อีกฝ่ายตอบกลับว่าเห็นถูกยิงที่ศีรษะ จากนั้นเพื่อนสามีจึงอัดคลิปส่งมาให้ตนดู และพบว่าสามีเป็นหนึ่งในแรงงานคนไทยที่เสียชีวิตจริงๆ
นอกจากนี้เธอยังเล่าต่ออีกว่าสามีได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล หลังจากแต่งงานได้เพียง 2 อาทิตย์ สามีก็เดินทางไปทำงานรีดนมวัว เมืองคิบบุตซ์ ประเทศอิสราเอล ใกล้กับบริเวณฉนวนกาซา เพื่อหาเงินส่งกลับมาให้ครอบครัว ซึ่งไปทำงานได้เพียง 1 ปี 8 เดือน ก่อนจะเกิดเหตุสลดขึ้น