กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะลูกสาวของผู้ป่วย พร้อมด้วยคุณแม่และหลานชาย ที่กำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อสอบถามถึงเหตุผลรถพยาบาลแวะซื้อกล้วยทอด ระหว่างทางที่นำคุณพ่อของเธอมาส่งโรงพยาบาล จนกลายเป็นดราม่าเดือดที่ถูกวิพากวิจารณ์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้
โดยทางด้านลูกสาว เป็นผู้ถ่ายคลิปได้บอกกับเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวว่า "เจ้าหน้าที่พูดไม่ดี ตั้งแต่รับโทรศัพท์อันนี้ตนไม่ว่า แต่พี่แวะดูต้นไม้หน้าปากทาง อันนี้ไม่เข้าใจ แล้วยังเอากล้วยทอดอีก อันนี้ไม่เข้าใจใหญ่เลยพี่ซื้อทำไม เวลารับผู้ป่วย พี่ก็ควรรับผู้ป่วย มาให้ถึงโรงพยาบาล ไม่ควรจอดซื้อกล้วยทอด
ตอนแรกนึกว่าถนนไม่ดี แต่น้องที่นั่งมากับพ่อในรถ บอกว่าพี่แวะซื้อกล้วยทอด มันใช่เวลาหรือเปล่า หากพ่อเป็นอะไรขึ้นมา พี่รับผิดชอบเอาพ่อมาคืนได้ไหม ทั้งๆที่ซักประวัติที่บ้านแล้ว ถามพ่อว่าเต็มร้อยให้เท่าไร พ่อก็ตอบไปว่า 8 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมถึงไม่รีบ กินกล้วยทอดทำไม ทำแบบนี้ได้อย่างไร หรือว่ามันไม่ใช่พ่อของพี่ ในการรักษา พี่ไม่มีสิทธิ์แวะข้างทาง มันสมควรจะกินตอนนั้นไหม หากพี่อยากกิน ก็โทรบอกก็ได้ จะซื้อไปให้ แต่ไม่สมควรพาพ่อแวะ มันเกินไป"
ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็ได้ตอบกลับมาว่า "ขอโทษครับ และเข้าใจผิดคิดว่าน้องชายที่ขึ้นรถมาด้วยอายุไม่ถึง" ทางด้านผู้ถ่ายคลิปจึงบอกว่า เรื่องที่คิดว่าน้องชายอายุไม่ถึง เป็นเด็กนั้นไม่ผิด เพราะน้องเธอหน้าเด็กจริงๆ แต่เธอก็ได้แจ้งตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว ว่าน้องอายุ 22 ปี ถึงเกณฑ์ที่จะให้ข้อมูลต่างๆได้ แต่อันนี้ก็ไม่ติดใจ ตัดออกไปได้ แต่ที่ติดใจคือดูต้นไม้และแวะซื้อกล้วยทอดทำไปทำไม คนที่เขาส่งกับข้าว เขายังไปเร็วกว่านี้เลย
ซึ่งประเด็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก่อนที่ทางเพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลนครนายก ก็ได้มาคอมเมนต์ข้อความระบุว่า
"เบื้องต้นผู้บริหารโรงพยาบาลนครนายกได้รับทราบข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอดังกล่าวแล้ว ทางโรงพยาบาลนครนายกไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ และขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ จากเหตุการณ์ครั้งนี้
ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้มีการฝึกอบรมทางด้านจริยธรรมวิชาชีพการให้บริการอย่างเข้มงวด อย่างสม่ำเสมอ และขอเรียนให้ทราบว่าขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ และพยาบาล รายงานจากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อวินิจฉัยโรค ไม่พบภาวะหัวใจขาดเลือด อาการทั่วไปคงที่ ขณะนี้ให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการต่อไป"