พบศพ อดีตนายทหารยศพันเอก เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ

15 ตุลาคม 2566

มีรายงานพบศพ อดีตนายทหารยศพันเอก เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ หน้าค่ายทหาร ร.31 พัน1 ร.อ อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต

จากรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊ก อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า เวลา 07.25 น. รับเเจ้งจาก สภ.เมืองลพบุรี พบศพชายไทย นอนคว่ำหน้าอยู่ในคลองส่งน้ำ หน้าค่ายทหาร ร.31  พัน1 ร.อ ให้อาสาออกตรวจสอบ อาสาฯมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบในที่เกิดเหตุหาข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติมจะเเจ้งให้ทราบ

พบศพ อดีตนายทหารยศพันเอก เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ

ทางด้าน "ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม" รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพชายลอยอืดในคลอง สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดคอกลมสีเขียวขี้ม้า (สีทหาร) และกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ จึงให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำขึ้นมาทำการตรวจสอบ โดยแพทย์เวรของ รพ.อานันทมหิดล เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตน่าจะจมน้ำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

พบศพ อดีตนายทหารยศพันเอก เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ

จากการตรวจสอบในกระเป๋ากางเกง พบกระเป๋าสตางค์สีดำของผู้เสียชีวิต พบบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรข้าราชการทหาร ระบุชื่อ พ.อ.กมลศักดิ์ สร้อยศิริ อายุ 62 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 270/186 ซอยสามแยกเตาปูน- บางโพ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. บัตรประจำตัวข้าราชการทหารสังกัดกองทัพบก และธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 2 ใบ เหรียญบาทอีก 3 เหรียญ สมุดเงินฝาธนาคาร 1 เล่ม ใบฝากเงิน และเอกสารเสียภาษีรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน 

ทางด้าน ญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้เสียชีวิตเป็นอดีตนายทหารสังกัดกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ อยู่ กทม. หลังจากเกษียณก็กลับมาอยู่ลพบุรี ที่บ้านในซอยแม่สวย ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี เป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าทุกวัน และจะมาเดินเก็บขยะบริเวณที่เกิดเหตุทุกวัน 

"ที่พบศพก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเมาตกไปในคลองน้ำหรือไม่ แต่เวลาเมามักจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออาจโดนรถเฉี่ยวชน ซึ่งวันสุดท้ายที่พบผู้เสียชีวิตบ่นปวดท้องจะไปหาหมอ จากนั้นก็หายตัวออกจากบ้านมา 3 วัน"

พบศพ อดีตนายทหารยศพันเอก เสียชีวิตในคลองส่งน้ำ

หลังจากตรวจพลิกศพเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำศพส่งแผนกนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง

 

ภาพจาก อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดลพบุรี