เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 "หมอวรงค์" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ถึงประเด็นการแจกเงินดิจิทัล ระบุว่า...
คำแถลงพรรคไทยภักดีถึงรัฐบาลเศรษฐา
ต่อกรณีการแจกดิจิทัโทเคน 10,000 บาท ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน วงเงิน 560,000 ล้านบาท ซึ่งถูกคัดค้านจากนักวิชาการ อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีคลังและประชาชนจำนวนมาก
1. จะเชื่อข้อมูลอาจารย์เศรษฐศาสตร์ อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นักวิชาการ อดีตรัฐมนตรีคลังหรือจะเชื่อนายกเศรษฐา เรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ
2. ทำไมต้องแจกคนรวย นักการเมือง ไม่แจกเฉพาะคนจนคนเปราะบาง เราต้องการให้แจกเฉพาะคนจน คนเปราะบาง
3. แล้วจะเอาเงินมาจากไหน 560,000 ล้าน ที่ไม่มีผลกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจน
4. ทำไมต้องแจกเป็นดิจิทัลโทเคน ทำไมไม่แจกเป็นเงินบาท(เงินสด) เพราะประชาชนคุ้นเคยกับเงินบาท ไม่คุ้นเคยกับโทเคน และต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนที่จะขึ้นเงินได้ พ่อค้ารายย่อยจะไม่มีเงินหมุนเวียน สุดท้ายประโยชน์จะไปที่ธุรกิจใหญ่ คนรวย ที่สำคัญมีผลประโยชน์แอบแฝงเรื่องโทเคนหรือไม่
5. มีมาตรการในการป้องกันการทุจริตอย่างไร โดยเฉพาะการซื้อสิทธิ์โทเคนราคาถูก จะเป็นการฟอกเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
6. ที่ต้องทำเพราะเป็นนโยบายหาเสียงใช่หรือไม่
7. ขัดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 มาตรา 6 และ 9 และรัฐธรรมนูญมาตรา 162 และ 164 หรือไม่
โดยเฉพาะการสร้างความเสีหายต่อวินัยการเงินการคลัง และห้ามหาคะแนนนิยมทางการเมือง สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและประชาชนในระยะยาว
8. ขัดต่อพรบเงินตรา 2501 หรือไม่ เพราะมีการนำโทเคนมาใช้แทนเงินตรา (มาตรา 6 และ 9 ของพรบ.เงินตรา 2501)
9. ถ้ายังเดินหน้าลุยไฟเจอกันที่ศาลปกครองผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา22(1)(2)และ23(2)
9.1 เสนอเพื่อระงับยับยั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ
9.2 ขอมาตรการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างรอคำพิพากษา
สรุปแล้วโครงการนี้ ช่วยคนรวยแต่เอาคนจนมาบังหน้า ถ้าจะแจกจริง ต้องแจกคนจนเท่านั้นและต้องแจกเป็นเงินสด