4 จว.ภาคอีสานน่าห่วง พบป่วยโรคไข้ดินเกือบ 600 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 คน

21 ตุลาคม 2566

โรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดิน มักจะพบมาในกลุ่มชาวเกษตรกร สคร.9 เตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรือผู้ที่ทำงานสัมผัสดินและน้ำโดยตรง ไม่ควรเดินลุยน้ำด้วยเท้าเปล่า

       นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน  กล่าวถึง โรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดินว่า เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เบอร์โคเดอเรีย สูโดมัลลิอาย พบได้ทั่วไปในดิน น้ำ นาข้าว ท้องไร่ แปลงผัก สวนยาง ทั่วทุกภาคในประเทศไทย เชื้อเชื้อแบคทีเรียมาสารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งหมด 3 ทาง ได้แก่

1.การสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน

2.ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป

3.สูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อประมาณ 1-21 วันจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ อาจติดเชื้อเฉพาะที่ หรือติดเชื้อแล้วแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะและเสียชีวิตได้

 

4 จว.ภาคอีสานน่าห่วง พบป่วยโรคไข้ดินเกือบ 600 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 คน

    สถานการณ์โรคเมลิออยด์ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 8 ตุลาคม 2566 มีผู้ป่วยโรคเมลิออยด์ 3,086 ราย มีผู้เสียชีวิต 58 ราย ส่วนใหญ่พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มอายุที่พบสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 65  ปี ขึ้นไป รองลงมาคือ 55-64 ปี และกลุ่มอายุ 45-54 ปี ตามลำดับ


  4 จังหวัด ที่พบป่วยโรคไข้ดินเกือบ 600 ราย ได้แก่

  • จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 336 ราย (เสียชีวิต 4 ราย)
  • จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 106 ราย 
  • จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 93 ราย  (เสียชีวิต 2 ราย)
  • จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 47 ราย

  4 จว.ภาคอีสานน่าห่วง พบป่วยโรคไข้ดินเกือบ 600 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 คน

 

  อาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ 

1.เกษตรกร 

2.รับจ้าง 

3.เด็ก 

 

4 จว.ภาคอีสานน่าห่วง พบป่วยโรคไข้ดินเกือบ 600 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 คน

 

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันโรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดิน ควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง หากมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากทำงานหรือลุยน้ำ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีตามอาการและความรุนแรงของโรค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

ขอบคุณ กรมควบคุมโรค