กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก มามีสุข ณ สวนคุณตา Cafe and Restaurant ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังใน จ.ลำปาง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวหลังมีลูกค้ามาโวย โดยอ้างว่ากินข้าวแล้วเจอฝอยขัดหม้อ พร้อมกับเรียกค่ารักษากว่า 3,000 บาท ก่อนทางร้านสวนกลับความจริง บอกเลยโป๊ะแตกเต็มๆ
โดยทางร้านระบุว่า มีลูกค้ารายหนึ่งโทรศัพท์มาที่ร้านบอกว่า กินข้าวอบสัปปะรด แต่ฝอยขัดหม้อติดคอ ทันทีที่ได้ฟังคนในร้านก็ตกใจกันถ้วนหน้า เพราะที่ร้านไม่ใช้ฝอยขัดหม้อ แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร และเพื่อความแน่ใจ ทางเจ้าของร้านสอบถามรายละเอียดลูกค้าถึงวันเกิดเหตุ ลูกค้าเล่าว่า เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
ลูกค้ามาทานอาหารที่ร้าน และทานข้าวอบสัปปะรด ห่อหมกทะเลผัดแห้ง ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว หมูสามชั้นทอดคั่วพริกเกลือ และลูกค้าก็อ้างว่า จานที่มีปัญหาคือ ข้าวอบสับปะรด เมื่อลูกค้าทานแล้วรู้สึกเหมือนหางกุ้งเจ็บคอ ก็ไม่ได้คิดอะไร ทานเสร็จก็กลับกรุงเทพฯ ก็ยังคงเจ็บคอ พอไปหาหมอ ก็พบฝอยขัดหม้อ
หลังจากนั้น ทางร้านได้ขอเลขบัญชีกับลูกค้าและขอใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล แต่ทางลูกค้ากลับปฏิเสธว่า เรื่องใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลนั้น เธอต้องให้หมอส่งเข้าบริษัทโดยตรง ลูกค้าอ้างว่าเธอไม่มีสิทธิ์ถือใบเสร็จใด ๆ เนื่องจากบริษัทของเธอเคยมีปัญหาเรื่องการปลอมแปลงเอการ
หากไปหาหมอต้องให้ส่งใบเสร็จให้บริษัทโดยตรงโดยไม่ผ่านมามือของพนักงาน แต่เธอจะเอาใบเสร็จมาให้ได้ หากหมอนัดในรอบหน้าวันที่ 29 ตุลาคม และจะส่งให้ทางร้านย้อนหลัง ซึ่งทางร้านก็รู้สึกว่าแบบนี้ค่อนข้างผิดปกติแต่ก็ทำเนียน ๆ ไปก่อน จากนั้น ทางร้านก็ถามลูกค้าถึงเงินค่ารักษาพยาบาล ลูกค้าบอกว่า มีทั้งสิ้น 3,400 บาท และจะมีการนัดหมออีก 3 ครั้ง ซึ่งทางร้านก็รับปากว่าจะรับผิดชอบ พร้อมกับขอไลน์เอาไว้
และทันทีที่วางสาย เจ้าของร้านรีบเช็กเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครัวบอกว่า ไม่ได้ใช้ฝอยขัดหม้อ และข้าวอบสับปะรดจะใช้กระทะเทฟล่อนผัด ซึ่งกระทะเทฟล่อนจะไม่สามารถใช้ฝอยขัดหม้อขัดได้ ไม่เช่นนั้นกระทะจะเสีย ถ้าจากการล้างจาน ทางร้านก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี เพราะมีเครื่องล้างจานอยู่แล้ว นอกจากนี้ อาหารที่ลูกค้าสั่งในระบบ ก็ไม่ชุดรายการอาหารที่สั่ง เจ้าของร้านจึงสอบถามลูกค้าว่าสั่งอะไรไปบ้าง และทานอาหารวันไหนแน่ ลูกค้าจึงเปลี่ยนใจบอกว่า ทานวันหวยออก (16 ตุลาคม) ทันทีที่ได้ฟังคำตอบ เจ้าของร้านคิดว่าผิดปกติแน่นอน เนื่องจากวันนั้นร้านไม่มีการขายเมนูนี้ในช่วงเย็น
ทั้งนี้ เจ้าของร้านจึงย้อนกลับมาดูที่ไลน์ เพื่อเช็กเลขบัญชีที่ลูกค้าให้ ลูกค้าก็ลบออกไปแล้ว พอสอบถามเรื่องใบเสร็จจากโรงพยาบาล ลูกค้าก็บอกไม่มี ดังนั้นคิดว่า เป็นมิจฉาชีพ ถ้าวันนั้นไม่มีสติ คงเสียเงินให้กับคนเหล่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีร้านอาหารหลายร้านเข้ามาคอมเมนต์ว่า เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเข้ามาในหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่ร้านนี้แต่มีอีกหลายร้านที่โดนเหมือนกัน