จากประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายวีระขาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศบาลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมพวก ร่วมกันทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อน้ำประปา แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บุกตรวจค้นคนในครอบครัวไทยเศรษฐ์
โดยก่อนหน้านี้ย้อนไปปี พ.ศ.2560 ผู้การเต่าเคยโชว์ผลงานนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางแผนตรวจค้นรถของชาดามาแล้ว ซึ่งหลังการตรวจค้นรถทั้ง 8 คันของชาดา พบอาวุธปืนและกระสุนพร้อมใช้ที่ตัวลูกน้องของชาดา พร้อมด้วยอาวุธปืนอีกหลายประบอกและของกลางอีกหลายรายการ
ซึ่งทำให้ชาดาต้องถูกสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในขณะนั้นแจ้งว่าเป็นการตรวจค้นตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม
สำหรับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือผู้การเต่า ผบก.ปปป. และรักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.) เป็นชาวสุพรรณบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 29 และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 45
ก่อนจะเริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.144 จ.เพชรบุรี จากนั้นเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าชุดยาเสพติด ตชด.ภาค 1 ก่อนเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ ในสายงานสืบสวนสอบสวน กระทั่งติดยศพล.ต.ต.ในตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ เคยทำคดีใหญ่ๆ มามากมาย ทั้งการจับกุมอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, จับกุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเวที กรุงเทพฯ, จับกุมนายกเทศมนตรีบางแก้ว จ.สมุทรปราการ จนมาถึงคดีที่นำกำลังตำรวจเข้าค้นบ้านพักของของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หลังลูกน้องมีข้อมูลพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนันออนไลน์