สะเทือนใจ คนร้ายเผยคำพูดสุดท้าย "ดีเจจุฑาทิพย์" ก่อนเสียชีวิต

28 ตุลาคม 2566

สะเทือนใจ ผู้ก่อเหตุฆาตกรรม "ดีเจจุฑาทิพย์" รับสารภาพพร้อมเผยคำพูดสุดท้ายของดีเจจุฑาทิพย์ ก่อนพบเสียชีวิต

จากกรณีคดีของนางจุฑาทิพย์ หรือ ดีเจจุฑาทิพย์ ที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์และฆาตกรรมก่อนนำร่างไปทิ้งไว้ข้างทางและขโมยรถไปขาย โดยครอบครัวได้ประกาศตามหานางจุฑาทิพย์ที่หายตัวไปแต่สุดท้ายกลับได้รับข่าวร้าย และตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในเวลาต่อมาซึ่งก็คือนายไพโรจน์ ผู้เช่าบ้านนางจุฑาทิพย์อยู่ สารภาพก่อเหตุลักทรัพย์แต่นางจุฑาทิพย์มาเห็นจึงจับมัดใส่รถไปทิ้งจุดดังกล่าว พร้อมเผยคำพูดสุดท้ายของดีเจจุฑาทิพย์ ก่อนพบเสียชีวิต

สะเทือนใจ คนร้ายเผยคำพูดสุดท้าย \"ดีเจจุฑาทิพย์\" ก่อนเสียชีวิต

 

 

เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ล่าสุดทางด้านพันตำรวจเอกภีมภณ ม่วงศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวชิรบารมี เปิดเผยว่า นายไพโรจน์ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ โดยสาเหตุที่ทำลงไป เนื่องจากเห็นว่านางจุฑาทิพย์ อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนสามีอยู่บ้านในตัวอำเภอเมืองพิจิตร เป็นผู้สูงอายุ และมีอาการป่วย จึงวางแผนเข้าไปลักทรัพย์ โดยให้การว่า "เตรียมนำสก็อตเทปไปด้วย โดยหากพบนางจุฑาทิพย์ก็เพียงจะใช้มัดแต่ไม่มีความประสงค์จะฆ่า เพื่อลักทรัพย์เท่านั้น" ซึ่งก็ได้เงินสดมา 3,000 บาทเศษ 

สะเทือนใจ คนร้ายเผยคำพูดสุดท้าย \"ดีเจจุฑาทิพย์\" ก่อนเสียชีวิต

แต่ระหว่างที่เข้าไปนางจุฑาทิพย์ ออกมาจากห้องน้ำพอดี จึงได้ใช้สก็อตเทปที่นำติดตัวไป พันข้อมือ-ข้อเท้า ปาก ก่อนที่นำใส่รถของนางจุฑาทิพย์ไปทิ้ง ซึ่งเหตุเกิดเวลา 20.00 น. ของวันที่ 21 ตุลาคม โดยนางจุฑาทิพย์ ได้พยายามร้องขอชีวิต โดยบอกว่า

 "อยากได้อะไรก็ให้เอาไป" แต่นายไพโรจน์ก็อุ้มนางจุฑาทิพย์ ขึ้นรถและไม่ทราบว่านางจุฑาทิพย์เสียชีวิตตอนไหน หลังจากที่ได้นำศพไปทิ้ง จึงนำรถของนางจุฑาทิพย์ ถอดป้ายทะเบียนออกขับไปเที่ยวตามสถานบันเทิงในเขตเทศบาลเมืองพิจิตรอีก 2 วัน  เมื่อเงินหมดจึงนำรถไปขายที่ตำบลหัวดง ซึ่งร้านรับซื้อไว้แล้วนำไปขายเป็นทอดๆ โดยรายสุดท้ายสามารถยึดรถได้ที่จังหวัดพิษณุโลก ในขณะนี้ได้เตรียมนำรถกลับมาเพื่อตรวจหาวัตถุพยานเพิ่มเติม


ส่วนกรณีพบคราบเลือด ในขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเลือดของนางจุฑาทิพย์หรือไม่ เนื่องจากคำให้การนายไพโรจน์ให้การว่า "ไม่ได้ทำร้ายผู้ตาย เพียงแต่ใช้สก็อตเทปมัดเท่านั้น" ซึ่งคงต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและจะส่งตัวไปฝากขังต่อไป

ทั้งนี้ได้มีการจับกุมตัวนายออฟ เพื่อนของนายไพโรจน์มาสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มากน้อยเพียงใด

 

ขอบคุณ อสมท พิจิตร