จากกรณีสืบเนื่องจาก คดีมหากาพย์ "น้องชมพู่บ้านกกกอก" พบศพบนภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านน้องชมพู่ราว 2 กม. ซึ่งตำรวจคาดว่าน้องชมพู่อาจถูกล่อลวงออกมาจากบ้าน เป็นไปได้ว่าหากเป็นเหตุฆาตกรรมผู้ก่อเหตุต้องมีความชำนาญและอาจรู้จักคนในครอบครัวนี้
โดยมีการสืบสวนข้อมูลที่ได้กันอย่างกระจ่างแล้วพบว่า น้องชมพู่ไม่ได้ พลัดหลงป่า หรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว น่าจะมีคน นำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุ กระทั่งมีพยานเห็นชายรูปร่างสูงอุ้มน้องชมพู่เข้าป่า ตำรวจรวบรวมหลักฐานออกหมายจับนายไชย์พล หรือลุงพล วิภา และ น.ส.สมพร หรือป้าแต๋น หลาบโพธิ์ สองสามีภรรยา เป็นลุง และป้าน้องชมพู่ กลายเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเช้าที่ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในหลายๆ ประเด็น ซึ่งช่วงตอนหนึ่ง แม่น้องชมพู่ พูดถึงประเด็นที่ลุงพลให้ข้อมูลว่า "น้องชมพู่อาจจะวิ่งเล่นกันสุนัขและเผลอพลัดไปไกลถึงภูเหล็กไฟ ที่ไม่มีน้ำและอาหาร สุดท้ายก็เสียชีวิตในที่สุด"
โดย แม่น้องชมพู่ ระบุว่า ประเด็นการเดินตามสุนัขเป็นไปไม่ได้ เพราะจุดประสงค์ไม่ได้มีเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนลูก เพียงแต่เลี้ยงไว้บริเวณบ้านเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ด้าน ทนายมองว่า เรื่องนี้สุนัขไม่เคยทิ้งคนมีแต่คนทิ้งสุนัข การที่สุนัขจะพาเด็กไปมันเป็นไปแทบไม่ได้โดยหลักสุนัขจะรักเจ้าของมากและมีความรับรู้ใกล้เคียงกับคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถึงประเด็นการเลื่อนคำพิพากษาทนายความเปิดเผย เพราะว่าเป็นกระบวนการปกติในชั้นศาล เพียงแต่ว่าการตรวจร่างยังไม่สมบูรณ์จึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น.ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลคาดว่าครั้งหน้าจะเสร็จสิ้น เบื้องต้นไม่น่ามีผลกระทบอะไร