อ.เจษฎ์ ตอบนิ่มๆ หลังชาวเน็ตถาม เดือดร้อนอะไรกับบั้งไฟพญานาค

01 พฤศจิกายน 2566

"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ออกมาตอบชัดหลังชาวเน็ตถาม เดือดร้อนอะไรกับบั้งไฟพญานาค

  "อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาตอบคำถามชาวเน็ต เกี่ยวกับเรื่อง "บั้งไฟพญานาค" เนื่องจากเป็นผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง 
 

อ.เจษฎ์ ตอบนิ่มๆ หลังชาวเน็ตถาม เดือดร้อนอะไรกับบั้งไฟพญานาค

 

ล่าสุด"อ.เจษฎ์"ได้โพสต์ข้อความ หลังมีผู้ทักเข้ามา ระบุว่า "เดือดร้อนอะไรกับบั้งไฟพญานาคเหรอ มันสร้างปัญหาอะไรให้ครอบครัวลุงเอ่ย เป็นถึง ดร. จะมาอวดภูมิว่าตัวเองฉลาดว่างั้น ตลก!"

 

อ.เจษฎ์ ตอบนิ่มๆ หลังชาวเน็ตถาม เดือดร้อนอะไรกับบั้งไฟพญานาค .

 

โดยทางด้าน อ.เจษฎา ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า 

ถ้าคนยังเชื่อเรื่องมั่วๆ วิทยาศาสตร์เทียมๆ อย่าง
 

"ลูกแก๊สมีเทน สะสมใต้แม่น้ำไหลเชียว ผุดขึ้นมาในวันที่มนุษย์กำหนด แล้วติดไฟได้เอง แถมพุ่งเป็นลุกไฟ ขึ้นฟ้าไปได้สูงๆ" 

มันก็เดือดร้อนผมแหละครับ หึๆๆ 
 

 ทั้งนี้ อาจารย์เจษฎา ได้กล่าวถึงข้อมูลเพิ่มเติมของบั้งไฟพญานาคอีกว่า 

เคยมีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ อ้างว่า เป็นเรื่องของการที่มีลูกแก๊สอยู่ใต้น้ำในแม่น้ำโขง และติดไฟพุ่งขึ้นฟ้า ซึ่งตรงนี้ ในเชิงวิทยาศาสตร์ ต้องอธิบายกันใหม่ว่า มันเป็นไปไม่ได้ แม่น้ำโขงเองเป็นน้ำที่ไหลเชี่ยว ไหลผ่านตลอดเวลา พื้นน้ำ ก็เป็น หิน กรวดทราย ซึ่งมันก็ไม่ได้เก็บสะสมก๊าซเอาไว้เหมือนตามหนองบึง เน่า ๆ ที่มีซากพืช ซากสัตว์ ทับถมอยู่ ถ้าเกิดมีแก๊สขึ้นมาจริง ๆ การที่แก๊สมันจะพุ่งขึ้นมาที่ผิวน้ำ ทำไม มันต้องขึ้นในเฉพาะวันนี้ วันออกพรรษาอย่างที่ว่า ที่สำคัญคือ มันขึ้นมาแล้วมันจะติดไฟได้ไง ปกติแล้วถ้าเป็นแก๊สมีเทน ต้องมีคนจุดไฟให้มัน เรื่องใหญ่ที่สุด ก็คือว่า ถึงมันจะติดไฟได้ มันก็ต้องติดแล้วสลายหายไป ไม่ใช่ว่าจะเป็นลูกไฟลอยขึ้นฟ้าได้ ถ้าเป็นแก๊สมันติดแล้วต้องสลายหายไป