สืบเนื่องจากกรณี สาววัย 26 ปี กล่าวหาว่าถูก "เณรแอ จอมขมังเวทย์" หลอกลวงล่วงละเมิดและกระทำอนาจาร จึงได้เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ล่าสุด พันตำรวจเอกอดิเรก ทองแกมแก้ว ผู้กำกับการสน.ดอนเมือง พร้อมกำลังตำรวจ สน.ดอนเมือง , เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดอนเมือง , และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 60 เข้าพบ นายหาญ รักษาจิตร์ หรือเณรแอ จอมขมังเวทย์ อายุ 63 ปี ที่บ้านพัก ย่านดอนเมือง
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 150 ตารางวา มีส่วนที่เป็นอาคารชั้นเดียว ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นห้องพิธีของเณรแอ มีแท่นบูชาเทวรูป ฤาษี เศียรพ่อแก่ กุมารทอง กุมารี หัวกะโหลกมีเทียนปัก และขี้ผึ้งมหาเสน่ห์ อยู่เต็มห้องหลายพันชิ้น ถัดเข้าไปด้านในแบ่งส่วนเป็นห้องนอน โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอนำน้ำมันว่าน มหาเสน่ห์ ดังกล่าวไปส่งตรวจว่ามีสารอันตรายใดหรือไม่
เณรแอ กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้เสียหายเมื่อปี 2564 โดยเริ่มจากมาขอถอนของ 3 ครั้ง หลังถูกสามีทิ้ง มีใบหย่ามายืนยัน ก่อนจะเริ่มพูดคุยชอบพอคบหากันฉันสามีภรรยา และมีการร่วมหลับนอน ส่งเสียเลี้ยงดู และเช่าบ้าน 2 หลัง ให้อยู่ โดยหลังล่าสุดเช่าเดือนละ 5,000 บาท หลังสำนักมานานหลายปี โดยตลอดระยะเวลลาที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็มีการมาขอเงินตลอด และได้โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเกือบ 1 ล้านบาท ตนเองมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าเช่าบ้านและแชทการสนทนาทั้งหมด แต่ช่วงหลังฝ่ายหญิงได้มาข่มขู่จะเอาเงิน และอ้างว่าท้อง แต่ตนเองได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแล้ว ยืนยันว่าเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงโกหก และมีชายอื่น จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงยังเรียกร้องเงิน 2 แสนบาท แต่ตนเองไม่ยอมจ่ายแล้ว เพราะมองว่าฝ่ายหญิงพฤติกรรมไม่ดี จึงเป็นที่มาที่ฝ่ายหญิงไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งตนเองมองว่าฝ่ายหญิงอาจมีปัญหาทางจิต
ส่วนที่เมื่อวานนี้ตนเองปฏิเสธว่าไม่รู้จักหญิงคนดังกล่าว โดยว่าจำไม่ได้ เนื่องจากตอนแรกฝ่ายหญิงปิดบังใบหน้า ตนเองจึงจำไม่ได้ เนื่องจากมีลูกศิษย์จำนวนมากเข้ามาหาตนเอง แต่เมื่อได้เห็นแชทสนทนาที่หลุดออกมา จึงรู้ได้ว่าเป็นอดีตภรรยารายนี้ เพราะส่งเสียลูกศิษย์สาวลักษณะนี้เพียงคนเดียว คบหาจากความรักและสงสาร ไม่ใช่การถอนของเพื่อมีเพศสัมพันธ์ใดๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ อยากเจอ อยากพูดคุยและถามว่าทำไปเพราะเหตุใด ทั้งนี้ตนเองบริสุทธิ์ใจ ยินดีเข้าให้ปากคำกับตำรวจทุกอย่าง โดยในวันนี้ก็ให้ข้อมูลเบื้องต้นไปบ้างแล้ว
ด้านพันตำรวจเอกอดิเรก เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเข้าตรวจสอบวันนี้เป็นการขอความร่วมมือตามความสมัครของเณรแอ ที่ต้องการพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จจริงหลังถูกกล่าวหา ซึ่งก็ได้เก็บหลักฐานบางส่วนไว้ตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกเณรแอมาให้ปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่ผู้เสียหายกล่าวหา ตำรวจก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตรวจร่างกาย และพยานแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นความสมัครใจ หรือล่อลวง หรือบังคับข่มเหง ซึ่งทั้งนี้ตำรวจยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาเณรแอแต่อย่างใด