เรียกได้ว่าโรค HIV กำลังได้รับความสนใจอย่างมากขณะนี้ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ คุณหมอสาวสวยรายหนึ่งได้ออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่อง HIV หลังจากมีเคสที่เกิดขึ้นในต่างประเทศว่า กรณีหมอทำร้ายคนไข้ที่ปกปิดประวัติ ซึ่งเรื่องนี้ตัวเธอเองไม่เห็นด้วย
โดยคุณหมอท่านนี้คือ คุณหมอลูกเกด หรือ พญ.ชุณหกาญจน์ เพ็ชรพันธ์ศรี จักษุเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขปัญหาสายตา (LASIK) เผยใน tiktok @lasikdr.lookgade เกี่ยวกับประสบการณ์ คนไข้ปกปิดประวัติ HIV เผยขั้นตอนการรับมือและแก้ไขอย่างไร พร้อมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ หมออินเดียตบคนไข้เพราะยัวะที่คนไข้ปกปิดประวัติ HIV
คุณหมอลูกเกด เล่าว่า "หมออินเดียตบคนไข้เพราะคนไข้ปกปิดประวัติ HIV จริงๆ ในฐานะหมอ หมอเชื่อว่ากว่า 95% ของหมอ ต้องเคยเจอคนไข้ปกปิดประวัติ HIV เพียงแต่หมอจะรู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง
อย่างเคสที่หมอเกดเคยเจอเป็น บุคลากรทางการแพทย์ด้วยกันนี่แหละ คนไข้มาด้วยอาการตามัว ตรวจตา 2 ข้างเจอว่าประสาทตามันเน่าเสียหายไปหมดเลย ในฐานะหมอตาเรารู้ได้ทันทีเลยว่าโรคนี้ จะเกิดเฉพาะในคนไข้ที่ภูมิคุ้มกันตก แน่นอนว่า HIV เป็นหนึ่งในโรคที่เราจะต้องคิดไว้เลย
ดังนั้นเราจึงต้องถามคนไข้ เช่น คนไข้ได้ทานยา HIV หรือมีโรคประจำตัวอะไรอยู่หรือเปล่า คนไข้ยืนยันว่าไม่มี ซึ่งเราก็ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อ แต่ไม่ว่าเราจะหาสาเหตุยังไง ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมคนไข้คนนี้ถึงภูมิต่ำ
เราเลยขอคนไข้เพื่อตรวจเชื้อ HIV ซ้ำ ซึ่งมันพีกตรงที่คนไข้กลับปฏิเสธตรวจ HIV และแจ้งว่า จริงๆ ตัวเองทราบอยู่แล้วว่าติดเชื้อ HIV แต่มองว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ เพราะแพทย์ยังไงก็ต้องป้องกันตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งตามจริงสิ่งที่คนไข้ท่านนี้พูดมันก็ถูกแต่คิดดูว่าในภาพของความเป็นจริงหมอทุกคนก็ไม่ได้ใส่ถุงมือตรวจคนไข้ทุกเคสนะโดยเฉพาะหมอตา
และถึงแม้โอกาสที่จะติดเชื้อมันจะน้อย แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ต้องแจ้งคุณหมอ เพราะมันจะทำให้การวินิจฉัยโรคมันยากขึ้น และในคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสบางชนิดเช่น HIV HPV HCV เวลาที่เราต้องเข้าห้องผ่าตัดมันจะต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างที่ใช้แล้วทิ้ง เช่น ชุดผ่าตัด ถ้าหากคนไข้มีเชื้อดังกล่าว หมอจะใช้ชุดผ่าตัดที่แบบเป็นกระดาษที่ใช้แล้วทิ้ง จะได้ลดภาระในการนำมาทำความสะอาด
ทุกคนอาจจะทราบอยู่แล้วว่า HIV ไม่ใช่โรคที่น่ากลัวเลย เพียงแต่การที่เราปกปิดประวัติมันจะเป็นผลเสียต่อตัวคนไข้เอง มากกว่าหมอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในเคสของ หมออินเดีย สิ่งที่เขาทำคือผิดทุกประการ หมอไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายคนไข้ เพราะหลักการแรกคือ หมอไม่ทำร้ายคนไข้"
นอกจากนี้ หมอลูกเกดยังได้ระบุทิ้งท้ายด้วยว่า HIV ในปัจจุบันไม่ใช่โรคที่น่ากลัว คนไข้ของหมอส่วนใหญ่จะบอกหมอหมดเลย ซึ่งหมอมองว่าเป็นอะไรที่น่ารักมาก ทำให้เรารับทราบความเสี่ยง คนไข้ก็รับทราบ ทำให้วินิจฉัยได้ถูกต้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก lasikdr.lookgade