สืบเนื่องจากกรณีเด็กหญิงวัย 14 ปี ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกระโดดลงในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช พ่อและแม่เลี้ยงของเด็กหญิงวัย 14 ปี ที่กระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวานนี้ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้อง โดยครอบครัวจะรับร่างน้องไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านน้ำพุสูง ตำบลห้อยโรง อำเภอล้อมกวาง จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวฝั่งพ่อ และจะสวดอภิธรรม 2 คืน และฌาปนกิจศพในวันที่ 9 พ.ย. นี้ โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพวันนี้เป็นคืนแรก
.
ล่าสุด ทางด้าน พ่อ-แม่เลี้ยง เด็กหญิงวัย 14 ปี เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่า
นางสาวนวลพรรณ บุญแล (แม่เลี้ยง) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตอนเช้า ลูกสาวได้เข้ามาหาก่อนไปโรงเรียนบอกว่า หนูขอกอดหน่อย ขอกำลังใจหน่อย จากนั้นก็ไปโรงเรียน แล้วก็มาทราบว่าเกิดเหตุขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนกับสามีเพิ่งประสานมูลนิธิปวีณาให้เข้าไปช่วยเหลือลูกสาวออกมาจากครอบครัวฝั่งแม่ที่จังหวัดชุมพร หลังทราบว่าลูกสาวถูกผู้ที่มีศักดิ์เป็นตา วัย 73 ปี ก่อเหตุข่มขืนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ นานกว่า 6 ปี จากนั้นก็รับมาอยู่ด้วยกันได้ 3 เดือน
โดยก่อนหน้านี้ ลูกสาวได้เล่าว่า แม่แท้ๆและยาย ไม่ค่อยได้เลี้ยงดู เพราะทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง จึงเอาน้องไปฝากไว้ที่บ้านน้องสาวของยายและเกิดเหตุขึ้น ซึ่งลูกสาวได้เคยพยายามขอความช่วยเหลือจากครอบครัวฝั่งแม่แล้วว่าถูกตาข่มขืน แต่กลับไม่มีใครเชื่อ บอกว่าลูกสาวสมยอมเอง จนกระทั่งลูกสาวมาเจอพ่อและตน จึงขอความช่วยเหลือ และช่วยกันพาออกมา โดยลูกสาวได้เคยอัดคลิปเสียงพูดคุยกับตาไว้ด้วยว่า ถ้ามีคนรู้ตาจะทำอย่างไร ตาก็ขู่ว่า ถ้าลูกสาวเอาเรื่องที่ถูกกระทำไปบอกใคร ก็จะฆ่าทุกคนให้หมด
ทั้งนี้ หลังจากมาลูกสาวย้ายมาอยู่กับตนเองได้ประมาณ 3 เดือน ลูกสาว เป็นเด็กสดใส ร่าเริง ใช้ชีวิตตามประสาเด็กตามปกติ และไม่เคยเล่าเรื่องที่ทุกข์ใจให้ตนเองฟัง ซึ่งช่วงที่อยู่กับตนก็พยายามเยียวยาจิตใจลูกสาว ไม่พูดถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น จึงไม่มีลางบอกเหตุและไม่คาดคิดว่าน้องจะตัดสินใจทำแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะเรื่องนี้ที่น้องเก็บสะสมมานานหลายปี เพราะน้องไม่มีเรื่องเครียดเรื่องอื่น มาอยู่กับตนก็สุขสบายดี ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้ลูกสาวไปเกิดในภพภูมิที่ดี มีแต่คนรัก เจอคนดีๆ
ทางด้าน นายสุทัศน์ กุณาหล่าย พ่อของน้อง เล่าว่า ตนเองขาดการติดต่อกับลูกสาวไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ที่ผ่านมาได้พยายามตามหาตลอด โดยโพสต์รูปลูกสาวทางโซเชียล เพราะเชื่อว่าต้องมีคนเห็น จนเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา ลูกสาวก็เจอกับตนในเฟซบุ๊ก และพูดคุยกัน พอรู้ชัดเจนว่าเป็นพ่อลูกกัน ลูกสาวก็เล่าให้ฟังว่าถูกตาข่มขืนมานาน พ่อจะรับได้ไหม และขอความช่วยเหลือ ตนกับภรรยาจึงประสานมูลนิธิปวีณาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี และช่วยพาลูกสาวออกมา โดยตอนนี้เรื่องคดีความ ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นตำรวจ ซึ่งตนมองว่า คดีแบบนี้ไม่สมควรได้รับการประกันตัว และผู้ก่อเหตุยังเคยโทรมาขอเจรจากับตนไม่ให้ดำเนินคดี บอกว่าตัวเองแก่แล้ว อยากจะให้เจรจากัน แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุดและให้ไปคุยกันที่ชั้นศาลเท่านั้น เพราะตนตามหาลูกสาวมานานมาก แต่สุดท้ายได้อยู่ด้วยกันแค่ไม่นาน ทั้งนี้ อยากบอกลูกว่า พ่อรักลูก และขอให้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี