สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานแถลงข่าวรายละเอียด "โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet" โดยกล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจรวม 600,000 ล้านบาท ซึ่งจะอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ครอบคลุม 50 ล้านคน และอีก 100,000 ล้านบาท ใช้ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ซึ่งเรื่องของแหล่งเงินทุนในโครงการทั้งหมดนี้ ความเป็นไปได้มากที่สุดคือการออก พระราชบัญญัติ เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งต้องผ่านกระบวนการการตีความโดยกฤษฏีกา เพื่อให้การออก พ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าว เป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม และไม่ขัดต่อหลักกฏหมายที่เกี่ยวข้องการออก พรบ. จะมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา
ล่าสุด 13 พ.ย.66 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรรมนูญ ม.231 (1) ประกอบ ม.23 (1) เพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะใช้เป็นงบประมาณการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ขัดกับ พ.ร.บ.วินัยการคลังของรัฐ 2561 ม.53 หรือไม่
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา มองว่า การที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมาแถลงรายละเอียดโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถึงแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาแจกก็คือ การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่อาจไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ประกอบ มาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐไม่ใช่เหตุเร่งด่วน ที่จะต้องกู้เงินมาแจก เพราะต้องการสร้างภาพในการตอบสนองนโยบายที่พรรคของตนเคยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง และยังมองว่าการกู้ครั้งนี้เอื้อเพื่อเหตุผลทางการเมืองเท่านั้น นอกจากนี้นายศรีสุวรรณเตรียมยื่น เรื่องนี้ต่อกกต. อีกครั้งในวันพุธและยื่น ป.ป.ช. ในวันศุกร์ เวลา 10.00 น.