ผู้เชี่ยวชาญเผย ฤดูหนาวปีนี้มาแน่! แต่มาแค่แป๊บเดียว 17-27 พ.ย.66 เท่านั้น
”
รศ.ดร.เสรี ผู้เชี่่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศ เผยประเทศไทยจะเข้าสู่เข้าสู่ฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป แต่จะสิ้นสุดเพียงแค่วันที่ 27 พ.ย. 66 เท่านั้น
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแล้ว ประเทศไทยเริ่มต้นฤดูหนาว 2566 อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป โดยระบุว่า
ปีนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่เข้าสู่ฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะลดลงต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นในหลายพื้นที่ และทิศทางลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึงความสูง 3,500 เมตร เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 เมตรขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก อย่างไรก็ตามช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวปีนี้ บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกในบางช่วง ส่วนบริเวณภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป
ทั้งนี้ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ระบุว่า
ฤดูหนาวมาแน่แต่ไม่หนาวมาชั่วครู่แค่วันลอยกระทงแล้วกลับไปเหมือนเดิมจนถึงสวัสดีปีใหม่
- สภาพอากาศแปรปรวน มวลอากาศเย็นจะลงมาให้สัมผัสชั่วครู่ตั้งแต่วันที่ 17-27 พฤศจิกายนนี้ ทำให้อุณหภูมิทั่วทุกภาคลดลงต่ำกว่าปกติ 3-5oC สภาพอากาศจะเย็นลงฉับพลันตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน โดยจะมีลมแรงในวันที่ 16 และ 17 พฤศจิกายน รักษาสุขภาพด้วยครับ
- อยากสัมผัสความหนาวเย็น ต้องไปที่ยอดดอยน่ะครับ อุณหภูมิต่ำสุดในพื้นราบภาคเหนือ (เชียงใหม่) และภาคตะวันออกฉียงเหนือ (เลย) จะลดลงจากปัจจุบัน (22oC) เป็น 15-16oC ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ อุณหภูมิต่ำสุดจะลดลงจากปัจจุบัน (24oC) เป็น 18-19oC อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปลายเดือนนี้ อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติจนถึงช่วงวันคริสต์มาส และปีใหม่ (ดูรูปประกอบบริเวณเฉดสีฟ้า และสีส้มหมายถึงอุณหภูมิจะต่ำ และสูงกว่าปกติตามลำดับ) ดังนั้นสภาพอากาศปลายปีจึงจะไม่หนาวเหมือนอดีตที่ผ่านมา
- หลังเข้าสู่ปีใหม่ 2567 อุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนเมษายนจะสูงกว่าปกติทุกเดือนประมาณ 1-2องศาฯ ดังนั้นช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนก็จะร้อน และแล้งมาก เกษตรกร และชาวนาควรวางแผนการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานเอาน้ำต้นทุนจากไหน ?
คนกรุงเทพฯจะหลบร้อนไปพักผ่อนที่ไหนกันดี ? ผมแนะนำชายทะเลน่ะครับ จะได้รับลมผ่อนคลายร้อน แต่อย่าอยู่กลางแจ้งนาน ระวังคลื่นความร้อนด้วยครับ