เรียกว่ากำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในโลกโซเชียล โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค โดยด้ออกมาโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์ หลังส่งพัสดุกับขนส่งสีแดงเจ้าหนึ่ง มูลค่ากว่า 620,000 บาท ซึ่งระบบขึ้นว่าส่งแล้ว แต่ของกลับไม่ถึงผู้รับ สุดท้ายของหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยระบุว่า
อุทาหรณ์โดนเจ้าหน้าที่นำจ่าย... อ. ฝาง จ. เชียงใหม่ ขโมยพัสดุ ไม่นำจ่ายพัสดุให้ผู้รับ แต่กลับลงในระบบว่านำจ่ายสำเร็จ ทั้งๆที่ผู้รับไม่ได้รับพัสดุเลย !!
วันที่ 17 พ.ค เราได้ส่งพัสดุที่... ไปให้ผู้รับ
วันที่ 18 พ.ค พัสดุถึง ... อ. ฝาง เจ้าหน้าที่นำจ่ายชื่อนี้ ไม่ได้นำพัสดุไปส่งให้ผู้รับตามที่อยู่หน้ากล่องพัสดุ แต่แอบขโมยพัสดุของผู้รับในวันนั้น ทั้งหมด 3 ชิ้น ไปให้วินมอเตอร์ไซต์ที่รออยู่หลัง...ค่ะ โดยไม่ขอดูบัตรประชาชน หนังสือมอบอำนาจ เอกสาร หรือตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่มารับพัสดุ ว่าชื่อนามสกุลตรงกับชื่อตามหน้ากล่องพัสดุไหม ของที่เราส่งไปมูลค่ารวมกัน 620,000 บาท
ทางไปรษณีย์อำเภอฝาง ได้โทรมาต่อว่าเรา พูดเพื่อปัดความรับผิดชอบ ไม่โทษระบบ ไม่โทษพนักงานของตัวเอง แต่กลับโยนความผิดมาให้กับทางเราว่าเราแบเอาของในกล่องพัสดุออกไปหรือเปล่า เราเป็นผู้ส่ง ผู้รับก็เป็นคนที่เราสนิทรู้จักกัน และส่งพัสดุให้กันบ่อย ไม่เคยเกิดปัญหาเลย เราได้ไปแจ้งความไว้ และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนฟ้องร้องกันอยู่ค่ะ
** อาจจะมีหลายๆคนสงสัยว่า ทำไมถึงกล้าที่จะส่งของที่ราคาสูงแบบนี้ ทำไมไม่ส่งวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่านี้
คำตอบคือ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ส่งของที่มีราคาสูง หลายๆคน รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของที่มีราคาสูงก็เลือกที่จะส่งขนส่ง บางคนส่งพัสดุ วันละเกือบ 100 กล่อง คงไม่มีใครขับรถ นั่งรถไฟ ขึ้นเครื่องบินไปส่งให้ลูกค้าเกือบทุกจังหวัดหรอกนะคะ แต่อยู่ที่จรรยาบรรณของทุกคนที่มีต่ออาชีพของตัวเองและต่อลูกค้า
โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้ให้ความสนใจ และเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย