อย่างเดือด ! เปิดนาที ตร.ล่ามือยิง น้องหยอด - ครูเจี๊ยบ พบหลักฐาน ของกลางเพียบ

22 พฤศจิกายน 2566

คืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งใช้ "มาตรการเด็ดขาด" ไล่ล่าจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิง น้องหยอด - ครูเจี๊ยบ ย่านคลองเตย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน ย้ำชัด! ให้ขุดรากถอนโคน...

สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิรดา อายุ 45 ปี หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์  อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายเสียชีวิต บริเวณหน้าธนาคาร ttb ย่านคลองเตย จ.กรุงเทพฯ

 

อย่างเดือด ! เปิดนาที ตร.ล่ามือยิง น้องหยอด - ครูเจี๊ยบ  พบหลักฐาน ของกลางเพียบ

 

ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล  ผบ.ตร. ให้ใช้ “มาตรการเด็ดขาด” สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์   รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน และคนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน โดยให้ พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง  ผบช.น.  ลงมาควบคุม เรียกระดมกำลัง บก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.5 , กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน” 

อย่างเดือด ! เปิดนาที ตร.ล่ามือยิง น้องหยอด - ครูเจี๊ยบ  พบหลักฐาน ของกลางเพียบ

 

และสั่งมอบดาบให้กับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. คุมบังเหียนชุดสืบสวนเอง โดยหยิบมือดีจากทั่วนครบาลลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ  ผบก.น.5 เจ้าของพื้นที่  “ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด” 

 

โดยจากการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล จนพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน  อีกทั้งคนร้ายได้ลักแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น  และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุดังกล่าว

 

ผู้การจ๋อจึงได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยงพบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ ไม่ธรรมดาคนเดียวที่ทำไม่ได้ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มครู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮ้าส์อีก 4 แห่งวงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม 

อย่างเดือด ! เปิดนาที ตร.ล่ามือยิง น้องหยอด - ครูเจี๊ยบ  พบหลักฐาน ของกลางเพียบ

 

 โดยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566   

 

  • พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง  ผบช.น.  
  • พล.ต.ต.นพศิลป์  พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. 
  • พล.ต.ต.ธีรเดช  ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.  
  • พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 
  • พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์  สระทองออย  รอง ผบก สส.บช.น.  
  • พ.ต.อ.วรพจน์  รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. 
  • พ.ต.อ.ปนาถพล  ปุณศรี รอง ผบก.น.5   
  • พ.ต.อ.อิสเรศ  ปาลาพงศ์  รอง ผบก.ฯรรท. ผกก.3 บก.สส.บช.น. 
  • พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1บก.สส.บช.น.  
  • พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 ฯ  
  • พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.  
  • พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์  อินทร ผกก.สืบสวน บก.น.5  
  • พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ  ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาล  , สืบ บก.น. 5 , สน. ทุ่งมหาเมฆ 

 

 ร่วมกันจับกุมจุดที่ 1 โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย ได้แก่ 

1. นายพฤฒิพล ราชญาณ หรือเอย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2019 ม.13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.121/2566 ลง 13 ก.พ. 66    

2. นาย วรงชัย กัณฑ์ศรี อายุ   20  ปี บ้านเลขที่ 120 ต คลองพระอุดม อ ปากเกร็ด นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1072/2566 ลง 22 พ.ย.66 

3.นายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25   ปีที่อยู่ 136 ม.4 ต.บึงแ ก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 

4.นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ  24 ปีที่อยู่ 148 ม.16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ 

5.นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ  23 ปีที่อยู่ 23 ม.2 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 

6.นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ    23 ปีที่อยู่ 149 ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

7.นายธนากร พันทองคำ อายุ   22 ปีที่อยู่ 3/19 ม.3 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 

8.นายอภิเดช นาคประกอบ อายุ    21  ปีที่อยู่ 180/198 ม.1 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 

 

 พบของกลาง ทั้งหมด 12 รายการ ได้แก่ 

 

1. เสื้อยืดสีดำ 1ตัว

2. เสื้อฮู้ดแขนยาวสีน้ำตาล 1 ตัว

3. กางเกง dickies สีครีม 1ตัว

4. บุหรี่ 2 ซอง

5. หัวเข็มขัด 1 อัน

6. รองเท้า adda 1คู่

7. รองเท้า คาดขาว 1คู่

8. โทรศัพท์ Iphone 11 1เครื่อง

9. Path ปทุมวัน 1 อัน

10. เมมโมรี่การ์ด 1 อัน

11. รถยนต์ toyota vios 1คัน ทะเบียน กฉ 2673 พระนครศรีอยุธยา

12. ระเบิดปิงปอง  จำนวน  2  ลูก

 

  • โดยกล่าวผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร , ร่วมกันยิงปืน(ซึ่งใช้ดินระเบิด)โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

 

  • โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ว่าข้อหา ร่วมกัน สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 

 

  • โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3-8 ว่าร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร

 

กล่าวคือ นายพฤฒิพล ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกคน (จับได้) ยิงก่อเหตุกราดยิงใส่นักศึกษาช่างกลอุเทนถวายที่บริเวณ หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ที่ผ่านมาและเป็นคนเดียวที่ยังหลบหนีอยู่ หลังรวบตัวหัวโจกได้ และจากการสืบสวนได้เป็นผู้ช่วยวางแผน และช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการยิงน.ส.ศิรดาหรือครูเจี๊ยบ และ นายธนสรณ์บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน

 

  • ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ หน้าตึก 5 เคหะเอื้อาทรบางบัวทอง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง นนทบุรี

 

  • ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2บ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 5 ต. ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 


  • ผู้ต้องหาที่ 3-8 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่3-8 บ้านเลขที่ 22/1 ซ.วงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ

 

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช  ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า

จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ที่ผ่านมา กล่าวได้เลยว่ามีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไปแล้ว มันไม่ใช้แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มันมีการวางแผนกันเป็น 10 คน ยิ่งกว่าในภาพยนตร์ โดยมีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก มันไม่ใช่เรื่องที่เราในสังคมจะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายมาจนมีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากกลุ่มบุคคลนี้