วันนี้ (23 พ.ย. 66) เวลา 10.30 น. นายรณณรงค์ แก็วเพ็ชร์ หรือทนายรณรงค์เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อมาสอบปากคำเป็นพยานประกอบสำนวนคดีอาญา หลังเข้ารับการรักษากับ "อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต" แล้วไม่หาย นอกจากนี้ พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของอาจารย์เอก ที่ไปรักษาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นายสุรัตน์ เร่งรัด ผู้เสียหายยอมรับว่าตนเองเชื่อและดูจาก YouTube จึงให้ภรรยาไปเรียนและมีการโอนชำระค่าเรียนจำนวน 10,000 บาท เพื่อที่จะเป็นศิษย์รุ่นแรก นำรักษาตัวเองและเอาไปประกอบอาชีพ แต่ปรากฏว่าไปเรียนแล้วไม่ได้ผล นอกจากนี้ ยังมีการชวนลูกไปรักษาตา การโอนค่ารักษาไปเพิ่มอีกคนละ 5,000 บาท แต่ไม่หาย ยอมรับว่าเป็นคนโอนเงินเอง
นอกจากนี้ อาจารย์เอกยังอ้างว่า มีค่าพรายกระซิบทำแท้งชาติที่แล้ว 2,000 บาท ซึ่งตนไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไป เบ็ดเสร็จเฉพาะตัวเองจ่ายไป 2 หมื่นกว่าบาท นอกจากนี้ ยังมีการโชว์ยาที่ซื้อมาให้สื่อมวลชนได้ดู และอยากให้อาจารย์อ๊อดนำตัวยาดังกล่าวไปตรวจสอบมีส่วนผสมของอะไรบ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องเกิดตั้งแต่ต้นปีทำไมถึงมาแจ้งความดำเนินคดี นายสุรัตน์เผยว่า ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายเดือนแล้วตน ก็ไม่กล้ามาแจ้งความ จนกระทั่งจะมาเจอทนายรณรงค์ และได้ชวนมาร้องกองปราบ
ด้านทนายรณรงค์ เผยว่า วันนี้ตนมาสอบปากคำในฐานะเป็นพยานที่ไปรักษาแล้วไม่หาย เบื้องต้นประเด็นดังกล่าวอยู่ในสำนวนคดี กำลังรวบรวมอยู่คาดว่ามีหลาย 10 คน และมีการทยอยให้มาปากคำเรื่อยๆ โดยการให้ปากคำในครั้งนี้เป็นการให้ปากคำเพื่อครบองค์ประกอบทางกฎหมายและต่อไป จะไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่ออนุมัติศาลออกหมายจับหรือเชิญอาจารย์เอกมาที่ปคบ. เบื้องต้นต้องตามต่อที่ปคบ.ว่ามีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จเมื่อไหร่