วันที่ 30 พ.ย. 66 เวลา 09.20 น.นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นจดหมายข้อเรียกร้องของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ ‘แป้ง นาโหนด’ เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการสอบสวนต่อไป
โดยเมื่อเช้านี้ นายกองตรี ดร.ธนกฤต ได้คุยมีการพูดคุยกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่า
ตอนนี้ "เสี่ยแป้ง" มอนิเตอร์สิ่งที่เราดำเนินการอยู่ตลอด ประเด็นการร้องทุกข์ของเสี่ยแป้งเป็นการร้องทุกข์ปกติทั่วไป เพียงแต่เรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ โดยการหลบหนีของเสี่ยแป้งยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และคดีความยังเหมือนเดิม แต่สำหรับหนังสือที่นำมายื่นวันนี้ มีประเด็นเกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์เป็นหลัก ประกอบด้วย 2 เรือนจำที่มีปัญหา คือ เรือนจำพัทลุง และ เรือนจำนครศรีธรรมราช โดยมีเหตุผล ดังนี้
โดยการดำเนินการทั้ง 3 เรื่องดังกล่าว เป็นประเด็นที่อยู่ใน 7 ข้อ ที่เสี่ยแป้งขอมาในจดหมาย ซึ่ง รมว.ยุติธรรม ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีกรมราชทันฑ์ ปปส. และ DSI เป็นคณะกรรมการร่วม ซึ่งดำเนินการตั้งและมีคำสั่งแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันกับยาเสพติดด้วย
นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งว่าญาติของเสี่ยแป้งมีความกังวลใจเรื่องความปลอดภัย เรื่องนี้ตนจะประสานกระทรวงยุติธรรมจังหวัดลงพื้นที่ เพื่อคุ้มครองพยาน และสิทธิของญาติ
ทั้งนี้ ภายหลังมีกระบวนการยื่นหนังสือดังกล่าว มั่นใจแค่ไหนว่าเสี่ยแป้งจะมอบตัวเร็วที่สุด นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากที่พูดคุยมานั้น คำขอข้อ 1 ตนไม่อาจก้าวล่วง แต่คาดว่าจะมีคชิปของเสี่ยแป้งถูกปล่อยออกมาอีก 3-4 คลิป พูดความรู้สึกจากเรื่องราวที่ถูกดำเนินการ โดยคลิปที่ 3 ที่ถูกปล่อยออกมา จากการพิจารณาก็สงสัยว่าเขามีประเด็นอะไร การประกันตัวของศาลเป็นดุลยพินิจที่ก้าวล่วงไม่ได้ และก็ไม่ใช่เหตุผลที่เสี่ยแป้งจะไม่มอบตัว เพราะถ้าไม่มอบตัว จะพูดเรื่องประกันตัวทำไม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับเสี่ยแป้ง เพราะไม่รู้จักกัน โดยเสี่ยแป้งเองก็ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ต่อสู้ ยืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่คิดยิงตำรวจ แต่เขาคงกำลังพิจารณาว่าจะมอบตัวเมื่อไร กับใคร ฝากถามไปทางทนายความว่าถ้าตนดำเนินการให้ครบเสี่ยแป้งจะมอบตัวหรือไม่ ส่วนการที่ตนเดินหน้ายื่นหนังสือของเสี่ยแป้งไปยังหน่วยงานต่างๆ จะถูกมองเป็นการแทรกแซงการทำงานหรือไม่นั้น ตนไม่มองเป็นเรื่องการแทรกแซง เพราะเป็นเรื่องที่มีคนส่งข้อมูลมา และเลือกไม่ได้ว่าประชาชนจะอยู่ในหรือนอกเรือนจำ เรื่องนี้ไม่ควรยืดเยื้อ ควรจบ และไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ด้าน นายสมภพ รุจจนเวท หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทันฑ์ กล่าวว่า สำหรับทั้ง 3 ประเด็น โดยที่เรือนจำกลางพัทลุง ประเด็นมีการขายสินค้าราคาแพง เบื้องต้นกรมราชทันฑ์มีระเบียบ และขั้นตอนในการจำหน่ายสินค้า ว่าจะไม่ขายเกินราคาตลาด และเปรียบเทียบราคาระหว่างเรือนจำข้างเคียงทุก 3 เดือน โดยทางกรมฯ จะลงไปตรวจสอบว่ามีการจำหน่ายราคาแพงจริงหรือไม่ ถ้าพบจริงถือว่าผิดระเบียบ ส่วนเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ประเด็น 393 ผู้ต้องขังลงชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินนั้น ทางกรมฯ จะไปสืบว่าปัจจุบันมีที่มาที่ไปอย่างไร และมีใครบ้างที่ลงชื่อ ส่วนผู้ต้องขังอีก 2 ราย ที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น ปัจุบันกรมราชทันฑ์ได้ปรับปรุง และกำหนดเงื่อนไขการดำเนินงาน โดยเฉพาะเรื่องการทรมาน การทำร้ายร่างกาย มาหลายปีแล้ว ทั้งนี้ จะดำเนินการตรวจสอบ หากมีการทำร้ายร่างกายจริง จะสอบข้อเท็จจริงต่อไป