สืบเนื่องจากกรณีข่าว "คดีกำนันนก" นายประวีณ จันทร์คล้าย ที่ได้สั่งยิง "สารวัตรศิว" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 30 พ.ย.66 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการแถลงความคืบหน้าคดี"กำนันนก" โดย ทางอัยการได้สั่งฟ้องกำนันนกทุกข้อกล่าวหา แต่มีเจ้าหน้าตำรวจไม่สั่งฟ้องบางส่วน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น เนื่องจากอธิบดีอัยการและคณะมองว่าถ้าเป็นตำรวจที่ไม่ได้อยู่นิ่งเวลาเกิดเหตุ ตอนยิง มีการเคลื่อนไหวช่วยเหลือพาไปโรงพยาบาล ดังนั้นจึงไม่สั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร อดีตผู้กำกับพญาไท
ซึ่ง พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ภายในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ซึ่งอาจจะต้องถูกดำเนินคดีความผิดฐาน “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” ตามมาตรา 157
โดยก่อนหน้านี้ ทาง พ.ต.อ.กฤษฎาพร ได้ให้ปากคำว่า
หลังเกิดเหตุได้ขับรถตามประกบท้ายรถที่พาสารวัตรแบงค์ และ พ.ต.ท.วศิน ไปส่งโรงพยาบาลจริง แต่ว่าไปหลงตรงบริเวณแยกปั๊มน้ำมันพีที เพราะลูกน้องเลี้ยวผิด ทำให้เสียเวลาไปประมาณ 8 นาที จึงตามไปถึงช้า ไม่ได้ออกไปพร้อมกับผู้หญิงในงานตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งชุดสืบสวนมีภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ตนหลงทางแล้ว ส่วนกรณีที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการเปิดเผยออกมา ไม่ปรากฏภาพตนนั้น จริงๆ แล้วมีภาพอีกมุมหนึ่งก่อนหน้านั้นที่เห็นตน ยังอยู่ตรงโต๊ะที่เกิดเหตุเหมือนเดิม และได้มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ด้วยการสั่งการให้ลูกน้องเข้าไปช่วย โดยจังหวะที่สารวัตรศิวถูกยิงว่า ตนเห็นนายหน่องเดินมา และได้ยินเสียงปืนนัดแรก ซึ่งตอนแรกยังคิดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก รวมทั้งหมด 7 นัด แบ่งเป็นการยิง 5 นัดแล้วพัก ก่อนจะยิงต่ออีก 2 นัด โดยตนหันไปเห็นจังหวะที่กำลังยิงประมาณนัดที่ 6-7 แล้ว จึงเห็นว่าเป็นปืนกล็อค
ตอนนั้นเห็นสารวัตรแบงค์ กำลังจะตกจากเก้าอี้ และ ด.ต.ชนาณัฐ ก็บอกกับตนว่า นายๆ พี่ศิวโดนยิง ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนสั่งการ โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจในงานต่างก็ตกใจ ส่วนอาวุธปืนนั้น ตนเอาไว้ในรถ ไม่ได้พกไว้กับตัว ส่วนก่อนเกิดเหตุ มีการดวลเหล้ากันจริง แต่ตนไม่เห็นว่ามีการผูกมือกันหรือไม่