ล่าสุด "อ.เจษฎ์" รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงเรื่องการผสมน้ำในน้ำยาล้างจาน หรือ สบู่เหลว โดยระบุว่า
"ผสมน้ำ ในน้ำยาล้างจาน มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ"
มีประเด็นถกเถียงกันในโลกโซเชียล เรื่องเกี่ยวกับ "การผสมน้ำในน้ำยาล้างจานหรือสบู่เหลว ว่าทำแบบนี้ แล้วเชื้อโรคจะเติบโตในขวดได้ เป็นอันตราย" ซึ่งทำให้หลายคนถกเถียงกันเพราะที่บ้านทำแบบนี้บ่อย
เรื่องนี้มาจากการที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ว่า “ทุกคนรู้ใช่ปะ ไม่ควรผสมน้ำในน้ำยาล้างจานหรือสบู่เหลวอะ เพราะมันจะทำให้เชื้อโรคเติบโตในขวด วันนี้เพิ่งบอกที่บ้านไปเพราะเห็นน้ำยาล้างจานมันเหลวกว่าปกติ แม่บอกไม่เคยรู้มาก่อนเลย” !? ... สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลฯ โดยเสียงแตก มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
เรื่องนี้ เท่าที่เช็คข้อมูลมา มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียของการผสมน้ำในน้ำยาล้างจาน/สบู่เหลว ซึ่งเรื่องข้อดีจะออกไปในทางที่ช่วยให้ประหยัดขึ้น และทำให้เจือจางไม่หนืดเกินไป ใช้สะดวกขึ้น ... ส่วนข้อเสียนั้น ก็มีทั้งเรื่องของประสิทธิภาพในการล้างที่อาจจะต่ำลงถ้าเจือจางเกินไป และมีความกังวลในเรื่องเชื้อโรค/สารเคมีปนเปื้อนมากับน้ำประปาที่ผสมลงไป และเจริญเติบโตในนั้นจริง แต่เมื่อ "เจือจางมากๆ และเก็บไว้นานๆ"
ดังนั้น ก็ลองตัดสินใจกัน โดยพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ตามที่รวบรวมมาด้านล่างนี้นะครับ .. แถมด้วย เคล็ดลับวิธีการล้างจานด้วยน้ำยาล้างจาน ด้วยครับ
ข้อดีของการผสมน้ำในน้ำยาล้างจาน
ข้อเสียของการผสมน้ำในน้ำยาล้างจาน
เคล็ดลับในการใช้น้ำยาล้างจาน
1. กวาดทิ้งเศษอาหารออกจากจานชามให้หมด ก่อนล้าง
2. ใส่น้ำผสมกับน้ำยาล้างจานเล็กน้อย ลงไปแช่ในจานชามไว้ก่อนล้าง เพื่อให้คราบไขมันและเศษอาหารที่ติดแน่นกับจาน หลุดออกง่ายขึ้น
3. เริ่มต้นล้างจานชาม จากใบที่สะอาดที่สุดก่อน เพื่อให้น้ำผสมน้ำยานั้นสามารถใช้ล้างได้นานขึ้น ก่อนที่จะไปจบที่การล้างหม้อและกระทะที่น่าจะเลอะที่สุด
4. ถ้ามีอ่างล้างจานแบบ 2 อ่าง ให้แยกอ่างหนึ่งไว้ล้างจานชามด้วยน้ำผสมน้ำยา และอีกอ่างไว้ล้างออกด้วยน้ำเปล่า (อันนี้แบบใส่น้ำเต็มอ่าง อย่างที่ฝรั่งนิยมทำ)
5. เวลาตากจานชาม การตากพึ่งลมธรรมดานั้น เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและถูกสุขอนามัยแล้ว ดีกว่าการใช้ผ้าเช็ดจานหลังล้างเสร็จเสียอีก เนื่องจากผ้าเช็ดจาน อาจจะมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่และแพร่กระจายไปยังจานชามระหว่างที่เช็ดได้
6. ถ้าล้างด้วยน้ำอุ่นได้ จะดีมาก น้ำยาล้างจานที่ผสมกับน้ำอุ่นจะสามารถล้างคราบไขมันออกจากจานชามได้ดีที่สุด
7. แยกล้างจานชามที่แตกง่าย เช่น เครื่องแก้ว หรือชามกระเบื้อง ออกมาล้างต่างหาก
8. ใส่ถุงมือยางในระหว่างล้าง ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมือและผิวหนังแล้ว ยังทำให้ล้างด้วยน้ำร้อนได้ด้วย