สืบเนื่องจากกรณี ได้รับแจ้งว่า ลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายรายหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย สภาพแผลเหวอะหวะ จากการถูกน้ำร้อนลวกทั่วตัว ในโรงงานผลิตครีมเถื่อนผิดกฎหมาย เมื่อทำการเข้าตรวจค้นพบว่า โรงงานแห่งนี้มีสภาพไม่ได้มาตรฐาน คนงานนั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรกไม่เหมือนกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียล รวมถึงตรวจค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฏหมายหลายรายการจะเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่นำไปใช้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ร่วมกับ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และเภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สั่งการให้
ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายฐิติวัชร์ สุทธิอภิโชคชัย อายุ 63 ปี
โดยถูกแจ้งข้อหาว่า บ้านเลขที่ 36/3 กับ 36/34 ในซ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน 21 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
1.ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้งตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ฝ่าฝืน ม.32(1) มีโทษตาม ม.78 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
2.ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่เป็นไปตามมาตรา22 วรรค2 (2) ฝ่าฝืน ม.32(4) มีโทษตาม ม.68 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.สถานที่ผลิตเครื่องสำอางปฏิบัติไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง พ.ศ.2561 ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคสาม มีบทลงโทษตามมาตรา 63 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
1.พบการผลิตเครื่องสำอางปลอม ฝ่าฝืน ม.27(2) ประกอบม.29(1) และ (4) มีบทลงโทษตามม.75 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และม.76 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามลำดับ
2.ผลิตไม่ตรงตามที่จดแจ้ง ฝ่าฝืนม.26 มีบทลงโทษตามม.71 ต้องระวางโทษปรับสองหมื่นบาท
3.ฉลากแสดงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ม.22 วรรคสอง (1) มีบทลงโทษตามม.67 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ผลิตไม่จดแจ้ง ฝ่าฝืน ม.14 วรรคหนึ่ง มีบทลงโทษตามม. 62 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ไม่มีฉลากภาษาไทย ฝ่าฝืนม.22 วรรคสอง (2) มีบทลงโทษตามม.68 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.กะละมังผสมผลิตภัณฑ์ผิดกฏหมาย บรรจุของเหลวพร้อมนำไปบรรจุภัณฑ์ 11 ใบ
2.พร้อมอุปกรณ์การผลิต จำพวก ไม้พาย , กระบวย , กะละมัง และหม้อต้ม หลายรายการ
3.ผลิตภัณฑ์โลชั่นนวดฝ่าเท้า 83 แกลอน
4.ผลิตภัณฑ์น้ำหอม เจลอาบน้ำ ผิดกฏหมาย จำนวน 580 ขวด (ผลิตในบ้าน)
5.ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ 73 แกลอน
6.ผลิตภัณฑ์น้ำหอม 2,976 ชิ้น
พฤติการณ์กล่าวคือ หญิงผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือผ่านเพจดัง และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอถูกน้ำร้อนลวกใส่ทำให้เป็นแผลเหวอะหวะทั่วร่างกาย ซึ่งหลังเกิดเหตุเธอได้รับเงินเยียวยาจากนายจ้างเพียงแค่ 1,000 บาท ซ้ำยังยื่นใบลาออกให้เธอเซ็นชื่อ จนถึงปัจจุบันนี้เธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ และจากสภาพครอบครัวของเธอที่มีลูกอ่อนเพียง 2 เดือน ต้องพบกับความยากลำบากจนไร้หนทาง ได้ขอความช่วยเหลือมาที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ผ่านทางเพจชื่อดัง เมื่อ พล.ต.ท.ธิติฯ เห็นสภาพเธอแล้วไม่สามารถนิ่งเฉยได้ สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ความช่วยเหลือในทันที โดยจากการสืบสวนแล้วทราบว่าสภาพภายในโรงงานที่เกิดเหตุนั้นมีเป็นบ้าน 2 ชั้น จำนวน 5 คูหา สภาพคับแคบและไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยใดๆ อีกทั้งยังสืบทราบว่าเป็นโรงงานที่มีการลักลอบผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. 66 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบนครบาล , สน.บางมด และเจ้าหน้าที่ อย. ร่วม 40 ชีวิต นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีที่ 34 , 35 , 36 และ 37/2566 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 66
ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 36/3 , 36/6 , 36/34 , 36/56 และ 36/57 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฏหมายหลายรายการ โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบพนักงานหลายรายอยู่ในสภาพ นั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรกไม่เหมือนกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชี่ยล ที่คนงานใส่ชุดขาวสวมหมวก ถุงมือยางกันสิ่งเจือปนผลิตภัณฑ์อย่างมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าไม่ตรงปกแบบสุดๆ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางหลายรายการ ก่อนจับกุมตัว นายฐิติวัชร์ สุทธิอภิโชคชัย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะประสานงาน หน่วยงานแรงงาน ดำเนินการต่อไป โดยในชั้นจับกุม นายฐิติวัชร์ สุทธิอภิโชคชัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งว่าจะปรับแก้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า "การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการด้วยตนเอง เพราะหากโรงงานเถื่อนแห่งนี้ไม่ถูกปราบปราม จะเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งกระบวนการผลิต ก็ไม่ได้มาตรฐานมีความสกปรก และลูกจ้างในโรงงานก็ได้รับความเสี่ยงเพราะขาดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัย ทำให้มีลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุจนเป็นแผลน้ำร้อนลวกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงขอเตือนไปยังโรงงานเถื่อนอื่นๆที่ยังแอบผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานให้เลิกผลิตเพราะสร้างความเสียกายกับสังคม"